Croatia full of life
วันพฤหัสฯที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
13 เม.ย. 66
20.30 น. บริษัทฯ ขอเชิญท่านที่จุดนัดพบ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าเลขที่ 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ (AUSTRIAN AIRLINES) ขอให้ท่านสังเกตป้าย “ALLIANCE CONSORTIUM ” เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
23.40 น. เหินฟ้าสู่ ดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS026 (ใช้เวลาบินโดยรวม 11 ชั่วโมง 35 นาที)
วันศุกร์ที่ สนามบินเวียนนา (แวะเปลี่ยนเครื่อง) – ดูบรอฟนิค (Unesco) – เขตเมืองเก่า – ประตูหลัก
14 เม.ย. 66
05.35 น. ถึง สนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง ให้ท่านได้ยืดเส้นยืดสายและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง DUTY FREE
หมายเหตุ : เนื่องจากเราเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ดังนั้นเมื่อเครื่องลงจอดแล้ว.....รบกวนผู้เดินทางทุกท่านโปรดรอหัวหน้าทัวร์อยู่บนเครื่องก่อน เพื่อที่หัวหน้าทัวร์จะได้นำท่าน ลงจากเครื่องพร้อมๆกัน ไปขึ้นรถต่อไปยังอาคารสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง เพื่อป้องกันการสับสนและพลัดหลงกัน
11.00 น. ออกเดินทางต่อสู่ ดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS731 (ใช้เวลาบินโดยรวม 1 ชั่วโมง 15 นาที)
12.15 น. เมื่อเครื่องบินสัมผัสขอบฟ้า นำท่านเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศโครเอเชีย คณะเดินทางถึง สนามบินดูบรอฟนิค (DUBROVNIK AIRPORT) แห่งเมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เป็นเมืองมรดกโลกทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย ให้ท่านได้ตื่นตาตื่นใจกับอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคา
สีแสดแดงที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งตลอดสองข้างทาง.... นับเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป ถูกขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค” ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ เป็นของตนเองโดยเฉพาะเรื่องของการวางผังเมืองที่สวยงาม(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาของประเทศไทย 5 ชั่วโมง)นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางหัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศน์ท้องถิ่นจะนำคณะท่านฯ ขึ้นรถปรับอากาศเข้าสู่ ตัวเมือง แล้วพาท่านเดินเที่ยว ชมบริเวณรอบนอกของตัวเมืองเก่า (Old Town)ที่มากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO)....โดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (Pile Gate) นำไปสู่ Stradum พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Fountain)ไปจนสุดมุมถนนล้วนเรียงรายไปด้วยสถานที่สำคัญ เช่น Franciscan Church and Monastery วิหารในสถาปัตยกรรมโกธิก และภายในยังมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็น สถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย
อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column) และ หอนาฬิกา (Bell Tower)ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัด ซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของนักบุญ St. Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังและ โบสถ์ THE CATHEDRAL TREASURYสถานที่เก็บอัฐิของนักบุญ St.Blaise ภาพเขียนและชิ้นงานศิลปะรวมถึงวัตถุล้ำค่าจำนวนมาก และยังมีส่วนผลิตเหรียญกษาปณ์และทองของชั่งที่มีชื่อเสียงของดูบรอฟนิก อิสระท่านในการเดินช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของฝากตามอัธยาศัย...
เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL ADRIA ,DUBROVNIK หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 1)
วันเสาร์ที่ ดูบรอฟนิค – อ่าวมาลีสตอน – ล่องเรือชมฟาร์มเลี้ยงหอย + ชิมหอยนางรมสดๆ – สปลิท พระราชวังไดโอคลีเชียน (UNESCO) – เขตเมืองเก่า
15 เม.ย. 66
เช้า อรุณสวัสดิ์.....รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำท่านออกเดินทางไปยัง อ่าวมาลีสตอน (Mali Ston) เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยการล่องเรือ 45 นาที เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆของการเลี้ยง ไฮไลท์ : ลิ้มรสหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก พร้อมชิมไวน์ท้องถิ่นเติมเต็มรสชาติท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของอ่าว
*** หมายเหตุ - ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง ***
เที่ยง ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! สปาเก็ตตี้เสริฟคู่กุ้งล็อบสเตอร์
บ่าย จากนั้นคณะท่านฯ มุ่งหน้าสู่ เมืองสปลิท (Split)โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติคที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้มสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ สปลิท เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองลงมาจากซาเกร็บ และยังเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ การคมนาคม แหล่งอารยธรรมของแคว้นดัลเมเชีย และเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดด้วย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกๆของโลก และเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียนอีกด้วย
พาท่านเดินชมรอบๆ พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian Palace)สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 ที่ต้องการสร้างพระราชวังสาหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1979 ภายในประกอบด้วย วิหารจูปีเตอร์ (Catacombes) สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ลาน Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรงดงาม ยอดระฆังแห่งวิหาร (The Cathedral Belfry)แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาดิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารดอมนิอุส(Cathedral of St.Domnius) ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว ชมจัตุรัสประชาชน ชมรูปปั้นของ GREGORY OF NINผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย ในยุคศตวรรษที่ 10
เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL ORA,SPLIT หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 2)
วันอาทิตย์ที่ สปลิท – โทรเกียร์ (Unesco) – เขตเมืองเก่า – อุทยานแห่งชาติครึกคา – น้ำตกครึกคาโวดิเซ่
16 เม.ย. 66
เช้า อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำคณะมุ่งหน้าสู่ เมืองโทรเกียร์ (Trogir) ถือว่าเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย เป็นเมืองโบราณบนเกาะเล็กๆ ซึ่งในอดีตเคยถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน แต่ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่า และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 ระหว่างทางผ่านชมเมืองที่มีสภาพเป็นเกาะอยู่โดดเดี่ยว คือเมืองพรีโมสเตน
พาท่าน ชมเขตเมืองเก่า สัมผัสอาคารบ้านเรือนที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกรีกและโรมันโบราณ อาทิ ประตูเมือง Kopnena Vrata ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกา ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 แวะถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเซ็นต์ลอเรนซ์ (St. Lawrence Cathedral) ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 12 จุดเด่นของมหาวิหาร คือประตูทางเข้าที่แกะสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ อย่างวิจิตรตระการตา มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญเซ็นต์ลอเรนซ์ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น ของที่ระลึกมากมาย
เที่ยง ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นพาคณะท่านฯ มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติครึกคา (Krka National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของมณฑลซิบินิค-คนีน (Sibenik-Knin) อุทยานแห่งนี้ยังได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1985 เกิดจากแม่น้ำครึคา (Krka River) ซึ่งมีความยาวถึง 72 กิโลเมตร โดยก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องระบบนิเวศน์ในแถบแม่น้ำครึคา รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว นำท่านสู่ สกราดินสกี บูค (Skradinski Buk) จุดชมวิวน้ำตก Krka ที่สวยที่สุด เป็นหนึ่งในสองน้ำตกหลักที่มีความสูงประมาณ 37.5 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสมาก และด้วยความเป็นธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกจึงทำให้น้ำตกแห่งนี้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านเดินชมวิวทิวทัศน์ และพักผ่อนหย่อนใจ
แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองโวดิเซ่ (Vodice) เมืองเล็กๆริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติกทางตอนกลางของแคว้นดัลเมเชียน และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของทะเล
อาเดรียติกตอนกลาง อิสระให้ท่านเดินชมวิวท้องทะเลสีน้ำเงินครามแล้ว.....เข้าสู่โรงแรมที่พัก
เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL OLYMPIA,VODICE หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 3)
วันจันทร์ที่ โวดิเซ่ – ซีบินิค (Unesco) – ชมเมือง – ซาดาร์ (Unesco) – ชมเมือง – โบสถ์เซนต์ โดแนท มหาวิหารเซนต์อนาตาเซีย – ฟอรัมหรือย่านชุมชน – ช้อปปิ้งตลาดกลางเมือง – Sea Organ
17 เม.ย. 66
เช้า อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำคณะเดินทางสู่ ซีบินิค (Sibenik)เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติคซึ่งทะเลอาเดรียติกก็คือ ทะเลย่อยของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นเอง โดยเมืองชีบินิคจะมีอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคาทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนสซองส์ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี ชมสภาว่าการเมืองเก่า
THE OLD LOGGIAที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 / ต่อด้วยชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ (St. James) หรือ เซนต์จาคอบ (St. Jakob ) มรดกโลกที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัว งดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน และไม่มีการใช้วัสดุมาเชื่อมต่อจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้
เที่ยง ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นออกเดินทางต่อสู่ เมืองซาดาร์ (Zadar) เมืองประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปี และเป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน อดีตเมืองหลวงเก่าของ ภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต
พาท่านชมตัวเมืองซาดาร์ ชมประตูเมืองเก่า สมัยเวนีซมีอิทธิพลเหนือซาด้าร์ อันงดงามด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ต่างๆ ชมบริเวณด้านนอกของโบสถ์เซนต์ โดแนท (St.Donat) ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญประจำเมือง และมหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Church) ที่งดงามด้วยศิลปะผสม
โรมาเนสก์และโกธิค ชมฟอรัมหรือย่านชุมชน (Roman Forum)ของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน แวะตลาดกลางเมือง ที่มีชีวิตชีวาสดใสด้วยผัก ผลไม้ ไม้ดอกและอื่นๆ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน...และเดินริมเมืองซาดาร์ โดยที่นี่จะมีความพิเศษตรงที่มี ออร์แกนน้ำทะเล (Sea Organ)ที่แรกและที่เดียวของโลก โดยใช้คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งทำให้เกิดเสียงต่างๆ สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรีโดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic ซึ่งเปิดให้สาธารณะชนเข้าชมนับแต่วันที่ 15 เมษายน ปี ค.ศ. 2005 ที่ผ่านมา
เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL KOLOVARE, ZADAR หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 4)
วันอังคารที่ ซาดาร์ – พลิทวิตเซ่ – อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Unesco) – ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKEซาเกร็บ – ชมเมือง – โบสถ์เซนต์มาร์ค – มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น
18 เม.ย. 66
เช้า อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำคณะมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Plitvice Lake National Park)หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป และยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1979
วันพุธที่ ซาเกร็บ – ประตูหินตะวันออก – อิสระช้อปปิ้ง – เวียนนา (ประเทศออสเตรีย) – อิสระช้อปปิ้ง สนามบินเวียนนา
19 เม.ย. 66
เช้า อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
ชม ประตูหินตะวันออก KamenitaVrata หรือ (Stone gates) ประตูหินที่มีชื่อเสียงเครื่องหมายทางเข้าด้านทิศตะวันออกของเมือง ประตูสุดท้ายที่เหลืออยู่จากห้าประตู ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตามตำนานเล่าว่าไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี ค. ศ. 1731 เผาทำลายบ้านเรือนละแวกนี้จนราบคาบ ยกเว้นแต่ Stone Gate ซึ่ง ภายในมีรูปภาพ Jesus and Mary พร้อมมงกุฎ เป็นของที่ระลึกจากสมเด็จพระสังฆราชเมื่อคราวที่มาเยือนซาเกร็บ ที่ไม่ได้รับความเสียหายเลย ชาวบ้านเชื่อว่ารูปภาพนี้ศักดิ์สิทธิ์จึงพากันกราบไหว้บูชาหรือขอบคุณกับสิ่งปาฎิหาริย์ ที่เคยขอแล้วได้ดังที่ต้องการ ท่านจะสังเกตเห็นจากแผ่นหินที่ติดโดยรอบ จะสลักคำว่า “HVALA” ที่แปลว่า “ ขอบคุณ” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น ผ่านชมโรงละครแห่งชาติโครเอเชีย (Croatian National Theatre) สร้างขึ้นในปี 1895 โดยรูปแบบของอาคารการสร้างสไตล์นีโอบาร็อค มีลักษณะเป็นรูปตัว U และรายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “The Green Horse shoe” โรงละครแห่งชาติโครเอเชียตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของ "Marshal Tito Square"เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดของซาเกร็บด้วย
พาท่าน เดินเล่นชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market)ตลาดเก่ากลางแจ้งที่เก่าแก่ที่มีสีสันสดใส ขายพวกไม้ดอกไม้ประดับ ผลไม้ราคาถูกและผ้าลูกไม้สีสันสวยงามแบบต่างๆ อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อเลือกชมตามอัธยาศัย....อิสระช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้า Arena Centar ก่อนเดินทาง ซึ่งมีสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ท่านสามารถซื้อสินค้าท้องถิ่นเป็นของฝาก เช่น ช็อคโกแลตยี่ห้อ KRAS , ไวน์ผลไม้ , น้ำมันมะกอก,เห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ
เที่ยง ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย พร้อมรับชมวิวทิวทัศน์ระหว่างเส้นทาง....กรุงเวียนนา มีความทันสมัยแฝงอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิคอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก แล้วพาท่านผ่านชมเมืองและ อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนคาร์ทเนอร์ (Karntnerstrasse) ถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของกรุงเวียนนาห้างสรรพสินค้า และร้านค้าแบรนเนมต่างๆ ตลอดสองฝั่งถนน ที่จะต้องถูกใจนักช้อปมีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์เนมยอดนิยม นาฬิกา ROLEX, LOUIS VUITTON และแบรนด์ดังอีกมากมาย อีกทั้งเครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน และของที่ระลึกต่างๆ
*** อิสระรับประทานอาหารเย็น เพื่อให้ท่านได้เต็มอิ่มกับการช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ***
19.00 น. จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร......นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเวียนนา (Vienna International Airport)เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
23.25 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS025 (ใช้เวลาบินโดยรวม 10 ชั่วโมง 05 นาที)
วันพฤหัสฯที่ สนามบินสุวรรณภูมิ
20 เม.ย. 66
14.40 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ....พร้อมกับความประทับใจมิรู้ลืม
*** ขอบพระคุณทุกท่านที่วางใจในงานบริการของเรา ***