Croatia full of life



Croatia full of life

เดินทาง 13 - 20 เมษายน 2566


 

วันพฤหัสฯที่  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 
13 เม.ย. 66

20.30 น.  บริษัทฯ ขอเชิญท่านที่จุดนัดพบ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าเลขที่ 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์                                          (AUSTRIAN AIRLINES) ขอให้ท่านสังเกตป้าย  “ALLIANCE CONSORTIUM  เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง    

23.40 น.  เหินฟ้าสู่ ดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย  โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS026 (ใช้เวลาบินโดยรวม 11 ชั่วโมง 35 นาที)   


วันศุกร์ที่  สนามบินเวียนนา (แวะเปลี่ยนเครื่อง)  – ดูบรอฟนิค (Unesco)  – เขตเมืองเก่า – ประตูหลัก
14 เม.ย. 66

05.35 น.  ถึง สนามบินเวียนนา  ประเทศออสเตรีย  เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง ให้ท่านได้ยืดเส้นยืดสายและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง  DUTY FREE

หมายเหตุ : เนื่องจากเราเดินทางมาเป็นหมู่คณะ  ดังนั้นเมื่อเครื่องลงจอดแล้ว.....รบกวนผู้เดินทางทุกท่านโปรดรอหัวหน้าทัวร์อยู่บนเครื่องก่อน  เพื่อที่หัวหน้าทัวร์จะได้นำท่าน  ลงจากเครื่องพร้อมๆกัน ไปขึ้นรถต่อไปยังอาคารสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง เพื่อป้องกันการสับสนและพลัดหลงกัน

11.00 น.  ออกเดินทางต่อสู่  ดูบรอฟนิค ประเทศโครเอเชีย  โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS731 (ใช้เวลาบินโดยรวม 1 ชั่วโมง 15 นาที)  

12.15 น.  เมื่อเครื่องบินสัมผัสขอบฟ้า นำท่านเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศโครเอเชีย  คณะเดินทางถึง สนามบินดูบรอฟนิค (DUBROVNIK AIRPORT)  แห่งเมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnikเป็นเมืองมรดกโลกทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย  ให้ท่านได้ตื่นตาตื่นใจกับอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคา
สีแสดแดงที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งตลอดสองข้างทาง....
นับเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป ถูกขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค” ด้วยความที่มีเอกลักษณ์  เป็นของตนเองโดยเฉพาะเรื่องของการวางผังเมืองที่สวยงาม(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาของประเทศไทย 5 ชั่วโมง)นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง  รับกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางหัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศน์ท้องถิ่นจะนำคณะท่านฯ ขึ้นรถปรับอากาศเข้าสู่ ตัวเมือง แล้วพาท่านเดินเที่ยว ชมบริเวณรอบนอกของตัวเมืองเก่า  (Old Town)ที่มากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO)....โดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (Pile Gate)      นำไปสู่ Stradum พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณทรงกลม (Onfrio Fountain)ไปจนสุดมุมถนนล้วนเรียงรายไปด้วยสถานที่สำคัญ เช่น Franciscan Church and Monastery  วิหารในสถาปัตยกรรมโกธิก  และภายในยังมีร้านขายยาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็น  สถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย

อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column) และ หอนาฬิกา (Bell Tower)ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444  หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัด ซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของนักบุญ St. Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังและ โบสถ์ THE CATHEDRAL TREASURYสถานที่เก็บอัฐิของนักบุญ St.Blaise ภาพเขียนและชิ้นงานศิลปะรวมถึงวัตถุล้ำค่าจำนวนมาก  และยังมีส่วนผลิตเหรียญกษาปณ์และทองของชั่งที่มีชื่อเสียงของดูบรอฟนิก   อิสระท่านในการเดินช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของฝากตามอัธยาศัย...

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร  

ค่ำ  พักค้างคืน  ณ  HOTEL ADRIA ,DUBROVNIK  หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 1


วันเสาร์ที่  ดูบรอฟนิค – อ่าวมาลีสตอน – ล่องเรือชมฟาร์มเลี้ยงหอย + ชิมหอยนางรมสดๆ – สปลิท พระราชวังไดโอคลีเชียน (UNESCO) – เขตเมืองเก่า
15 เม.ย. 66

เช้า  อรุณสวัสดิ์.....รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม

นำท่านออกเดินทางไปยัง อ่าวมาลีสตอน (Mali Ston)  เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยการล่องเรือ 45 นาที เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆของการเลี้ยง                          ไฮไลท์ : ลิ้มรสหอยนางรมสดๆ จากทะเลอาเดรียติก  พร้อมชิมไวน์ท้องถิ่นเติมเต็มรสชาติท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของอ่าว  

*** หมายเหตุ - ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง ***

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร  เมนูพิเศษ!! สปาเก็ตตี้เสริฟคู่กุ้งล็อบสเตอร์

บ่าย  จากนั้นคณะท่านฯ มุ่งหน้าสู่ เมืองสปลิท (Split)โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติคที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้มสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ  สปลิท เป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองลงมาจากซาเกร็บ และยังเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์  การคมนาคม   แหล่งอารยธรรมของแคว้นดัลเมเชีย  และเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดด้วย  ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกๆของโลก และเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียนอีกด้วย

พาท่านเดินชมรอบๆ พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian Palace)สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่  4  ที่ต้องการสร้างพระราชวังสาหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี  ค.ศ. 1979 ภายในประกอบด้วย วิหารจูปีเตอร์ (Catacombes)  สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ลาน Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรงดงาม  ยอดระฆังแห่งวิหาร (The Cathedral Belfry)แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาดิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารดอมนิอุส(Cathedral of St.Domnius) ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว ชมจัตุรัสประชาชน ชมรูปปั้นของ GREGORY OF NINผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย ในยุคศตวรรษที่ 10

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ค่ำ  พักค้างคืน ณ HOTEL ORA,SPLIT  หรือเทียบเท่า 4 ดาว  (คืนที่ 2)


วันอาทิตย์ที่  สปลิท – โทรเกียร์ (Unesco)  – เขตเมืองเก่า – อุทยานแห่งชาติครึกคา – น้ำตกครึกคาโวดิเซ่
16 เม.ย. 66

เช้า  อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม

นำคณะมุ่งหน้าสู่  เมืองโทรเกียร์ (Trogir)  ถือว่าเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย  เป็นเมืองโบราณบนเกาะเล็กๆ ซึ่งในอดีตเคยถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน แต่ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่า และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997  ระหว่างทางผ่านชมเมืองที่มีสภาพเป็นเกาะอยู่โดดเดี่ยว คือเมืองพรีโมสเตน 

 

พาท่าน ชมเขตเมืองเก่า  สัมผัสอาคารบ้านเรือนที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกรีกและโรมันโบราณ อาทิ ประตูเมือง Kopnena Vrata ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกา ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14  แวะถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเซ็นต์ลอเรนซ์ (St. Lawrence Cathedral) ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 12  จุดเด่นของมหาวิหาร คือประตูทางเข้าที่แกะสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ อย่างวิจิตรตระการตา มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญเซ็นต์ลอเรนซ์ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น ของที่ระลึกมากมาย

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร 

บ่าย  จากนั้นพาคณะท่านฯ มุ่งหน้าสู่  อุทยานแห่งชาติครึกคา (Krka National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของมณฑลซิบินิค-คนีน (Sibenik-Knin) อุทยานแห่งนี้ยังได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1985 เกิดจากแม่น้ำครึคา (Krka River) ซึ่งมีความยาวถึง 72 กิโลเมตร โดยก่อตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องระบบนิเวศน์ในแถบแม่น้ำครึคา รวมไปถึงการดำเนินกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา และการท่องเที่ยว นำท่านสู่ สกราดินสกี บูค (Skradinski Buk) จุดชมวิวน้ำตก Krka ที่สวยที่สุด  เป็นหนึ่งในสองน้ำตกหลักที่มีความสูงประมาณ 37.5 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำใสมาก และด้วยความเป็นธรรมชาติและความสวยงามของน้ำตกจึงทำให้น้ำตกแห่งนี้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านเดินชมวิวทิวทัศน์ และพักผ่อนหย่อนใจ

แล้วเดินทางต่อสู่  เมืองโวดิเซ่ (Vodice)  เมืองเล็กๆริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติกทางตอนกลางของแคว้นดัลเมเชียน  และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของทะเล
อาเดรียติกตอนกลาง  อิสระให้ท่านเดินชมวิวท้องทะเลสีน้ำเงินครามแล้ว.....เข้าสู่โรงแรมที่พัก

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารของโรงแรม

ค่ำ  พักค้างคืน ณ HOTEL OLYMPIA,VODICE  หรือเทียบเท่า 4 ดาว  (คืนที่ 3)


วันจันทร์ที่  โวดิเซ่ –  ซีบินิค (Unesco)  –  ชมเมือง – ซาดาร์ (Unesco) – ชมเมือง – โบสถ์เซนต์ โดแนท มหาวิหารเซนต์อนาตาเซีย – ฟอรัมหรือย่านชุมชน – ช้อปปิ้งตลาดกลางเมือง – Sea Organ
17 เม.ย. 66

เช้า  อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม

นำคณะเดินทางสู่ ซีบินิค (Sibenik)เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติคซึ่งทะเลอาเดรียติกก็คือ ทะเลย่อยของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นเอง  โดยเมืองชีบินิคจะมีอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคาทำด้วยกระเบื้องสีแสด   สไตล์เรอเนสซองส์ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี  ชมสภาว่าการเมืองเก่า
THE OLD LOGGIAที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 / ต่อด้วยชม มหาวิหารเซนต์เจมส์  (St. James)   หรือ เซนต์จาคอบ  (St. Jakob ) มรดกโลกที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัว งดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน  และไม่มีการใช้วัสดุมาเชื่อมต่อจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้  

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร

บ่าย  จากนั้นออกเดินทางต่อสู่  เมืองซาดาร์ (Zadar)  เมืองประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปี  และเป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลเอเดรียติค ที่มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน อดีตเมืองหลวงเก่าของ            ภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้                    เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต

พาท่านชมตัวเมืองซาดาร์  ชมประตูเมืองเก่า สมัยเวนีซมีอิทธิพลเหนือซาด้าร์ อันงดงามด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ต่างๆ ชมบริเวณด้านนอกของโบสถ์เซนต์ โดแนท (St.Donat) ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญประจำเมือง และมหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Church) ที่งดงามด้วยศิลปะผสม
โรมาเนสก์และโกธิค  ชมฟอรัมหรือย่านชุมชน (
Roman Forum)ของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน แวะตลาดกลางเมือง ที่มีชีวิตชีวาสดใสด้วยผัก ผลไม้ ไม้ดอกและอื่นๆ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน...และเดินริมเมืองซาดาร์ โดยที่นี่จะมีความพิเศษตรงที่มี ออร์แกนน้ำทะเล (Sea Organ)ที่แรกและที่เดียวของโลก โดยใช้คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งทำให้เกิดเสียงต่างๆ  สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรีโดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic ซึ่งเปิดให้สาธารณะชนเข้าชมนับแต่วันที่ 15 เมษายน ปี ค.ศ. 2005 ที่ผ่านมา

 

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ค่ำ  พักค้างคืน ณ  HOTEL KOLOVARE, ZADAR  หรือเทียบเท่า 4 ดาว  (คืนที่ 4)


วันอังคารที่  ซาดาร์ – พลิทวิตเซ่ – อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Unesco) – ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKEซาเกร็บ – ชมเมือง – โบสถ์เซนต์มาร์ค – มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น 
18 เม.ย. 66

เช้า  อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม

นำคณะมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Plitvice  Lake National Park)หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป และยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1979  

ทะเลสาบพลิทไวซ์ ตั้งอยู่ในดินแดนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ในส่วนของประเทศโครเอเชีย(Croatia) แม่น้ำโครานา(Korana) ทำให้เกิดทะเลสาบ 16 แห่งไหลผ่านหินปูนและหินชอล์กเชื่อมต่อกับ Cascades น้ำตกเล็กๆที่ไหลไล่ระดับลงมาเป็นชั้นๆเล็กๆ และ waterfalls น้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงชัน Plitvice Falls (น้ำตกพลิทไวซ์)  ชวนมหัศจรรย์กับอุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทไวซ์หนึ่งในป่าไม้ที่มีอายุมากรุ่นสุดท้ายในยุโรป ภูมิประเทศเป็นที่มหัศจรรย์บ่งบอกถึงสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้มีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมไปด้วยพืชและสัตว์ ทะเลสาบถูกแบ่งเป็น  2 กลุ่มใหญ่ คือ ชั้นบนและชั้นล่าง การเปลี่ยนของสภาพอากาศตามฤดูกาลระหว่างชายฝั่งและเขตภาคพื้นทวีป  แล้วพาท่านไปยังท่าเรือ เพื่อ ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) ท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่างๆมากมาย   จากนั้นพาเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง  นอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 20 ถ้ำ และชม Big Waterfalls ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้ 

*** หมายเหตุ - ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง ***

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร

บ่าย  จากนั้นนำคณะท่านเดินทางสู่  ซาเกร็บ (Zagreb)  เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย  มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี มีแม่น้ำสายหลักชื่อ ซาวา (Sava River) ไหลผ่านด้านหนึ่งของเมือง นอกจากนี้ประเทศโครเอเชียยังเป็นประเทศต้นกำเนิดของ “เนคไท” อาภรณ์อันงามสง่าและเป็นสากลของสุภาพบุรุษอีกด้วย.....พาคณะท่านเดินชมเมือง ผ่านชมจัตุรัส BAN JELACIC ที่มีรูปปั้นของนายพลบาน โจซิฟ เจลาซิค  (Ban Josip Jelacic)  วีระบุรุษของประเทศ  โดยนำทหารชาวโครแอตต่อต้านฮังการีในสมัยต้นศตวรรษที่ 19  และ ชมย่านเมืองเก่าของกรุงซาเกร็บ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เขต คือ เมืองตอนบน (Upper Town) และ เมืองตอนล่าง ( Lower Town) ที่เชื่อมต่อกันด้วยรถราง  FUNICULAR  ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป  นำคณะนั่งรถรางโดยชมเมืองจะเริ่มจากเมืองเก่าที่เป็น Upper Town ซึ่งมีแหล่งโบราณสถานและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย  ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินลัดเลาะตรอกซอกซอยเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จนไปถึงบริเวณ Lower Town  ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นย่านธุรกิจที่มีความคึกคักมากกว่าบริเวณ UpperTown ผ่านชมอาคารรัฐสภา (Sabor) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1918 ในโอกาสที่โครเอเชียแยกตัวออกจากอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน (AUSTRO-HUNGARIAN EMPIRE)  โดยมีการประกาศแยกตัวออกอย่างเป็นทางการ บริเวณระเบียงชั้นบนของอาคาร  หลังจากนั้นมีการตัดสินใจแยกตัวออกจากระบบสังคมนิยมยูโกสลาเวียขึ้น ณ ที่แห่งนี้ในปี ค.ศ. 1991 และประกาศตัวเป็นประเทศอิสระไม่ขึ้นกับประเทศ

จากนั้น บันทึกภาพทำเนียบประธานาธิบดี (Presidential  Palace) หรือ BANSKI DVORIที่พำนักของประธานาธิบดีโครเอเชีย  ต่อด้วย ชมจัตุรัส โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark's Square)ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark's Church)เป็นหัวใจของส่วน Upper Town สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 กระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์โดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล  เป็นตราสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรทรุนแห่งโครเอเชีย ดัลเมเชีย และ สลาโวเนีย (The Truine Kingdom of Croatia, Dalmatia and Slavonia)  ตราหมากรุกขาวแดงเครื่องหมายโครเอเชีย, ลีโอพาร์ด 3 ตัวคือแคว้นดัลเมเทีย  และสโลเวเนียคือแถบฟ้าแดง  ส่วนด้านขวาหมายถึงซาเกร็บ รอบๆโบสถ์จะมีโคมไฟที่ใช้น้ำมันในการจุดไฟให้สว่างตลอดเวลา เป็นธรรมเนียมมาแต่ดั้งเดิม......ชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น
(
The Cathedral of the Assumption of the Blessed Virgin Mary) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี  เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอ – กอธิก ในช่วงศตวรรษที่ 11  งดงามด้วยหอระฆังแฝด ปลายยอดแหลมสีทอง  ภายในประดิษฐานรูปปั้นนักบุญองค์สำคัญต่างๆ อย่างนักบุญปีเตอร์  แท่นบูชาโลงแก้วบรรจุร่างจำลองของอาร์คบิชอปสตีเฟ่นผู้ต่อสู้กับลัทธิเผด็จการฟาสซิสต์ ถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโครเอเชีย และยังเป็นศูนย์กลางของคริสต์จักรในประเทศโครเอเชียด้านหน้าของมหาวิหารมีบ่อน้ำพุที่เป็นแบบ นีโอ-กอธิก บนยอดเสาเป็นรูปปั้นสีทองของพระแม่มารี ส่วนที่ฐานของเสาเป็นรูปปั้นนางฟ้าสีทองทั้ง 4 ตั้งอยู่รายรอบตัวมหาวิหาร

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคาร

ค่ำ  พักค้างคืน ณ  HOTEL DUBROVNIK, ZAGREB  หรือเทียบเท่า 4 ดาว  (คืนที่ 5)

 

 

วันพุธที่  ซาเกร็บ – ประตูหินตะวันออก – อิสระช้อปปิ้ง – เวียนนา (ประเทศออสเตรีย) – อิสระช้อปปิ้ง สนามบินเวียนนา 
19 เม.ย. 66

เช้า  อรุณสวัสดิ์รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม

ชม ประตูหินตะวันออก KamenitaVrata หรือ (Stone gates) ประตูหินที่มีชื่อเสียงเครื่องหมายทางเข้าด้านทิศตะวันออกของเมือง ประตูสุดท้ายที่เหลืออยู่จากห้าประตู ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตามตำนานเล่าว่าไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี ค. ศ. 1731 เผาทำลายบ้านเรือนละแวกนี้จนราบคาบ ยกเว้นแต่ Stone Gate ซึ่ง ภายในมีรูปภาพ Jesus and Mary พร้อมมงกุฎ เป็นของที่ระลึกจากสมเด็จพระสังฆราชเมื่อคราวที่มาเยือนซาเกร็บ ที่ไม่ได้รับความเสียหายเลย ชาวบ้านเชื่อว่ารูปภาพนี้ศักดิ์สิทธิ์จึงพากันกราบไหว้บูชาหรือขอบคุณกับสิ่งปาฎิหาริย์ ที่เคยขอแล้วได้ดังที่ต้องการ ท่านจะสังเกตเห็นจากแผ่นหินที่ติดโดยรอบ จะสลักคำว่า “HVALA” ที่แปลว่า “ ขอบคุณ” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น  ผ่านชมโรงละครแห่งชาติโครเอเชีย (Croatian National Theatre)  สร้างขึ้นในปี 1895 โดยรูปแบบของอาคารการสร้างสไตล์นีโอบาร็อค  มีลักษณะเป็นรูปตัว U และรายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “The Green Horse shoe”  โรงละครแห่งชาติโครเอเชียตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของ  "Marshal Tito Square"เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดของซาเกร็บด้วย

พาท่าน เดินเล่นชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market)ตลาดเก่ากลางแจ้งที่เก่าแก่ที่มีสีสันสดใส ขายพวกไม้ดอกไม้ประดับ  ผลไม้ราคาถูกและผ้าลูกไม้สีสันสวยงามแบบต่างๆ  อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อเลือกชมตามอัธยาศัย....อิสระช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้า Arena Centar ก่อนเดินทาง  ซึ่งมีสินค้ามากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ท่านสามารถซื้อสินค้าท้องถิ่นเป็นของฝาก เช่น ช็อคโกแลตยี่ห้อ KRAS , ไวน์ผลไม้ , น้ำมันมะกอก,เห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคาร

บ่าย  จากนั้นนำท่านออกเดินทางมุ่งหน้าสู่  เวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย พร้อมรับชมวิวทิวทัศน์ระหว่างเส้นทาง....กรุงเวียนนา มีความทันสมัยแฝงอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิคอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออก แล้วพาท่านผ่านชมเมืองและ อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนคาร์ทเนอร์ (Karntnerstrasse) ถนนช้อปปิ้งสายสำคัญของกรุงเวียนนาห้างสรรพสินค้า และร้านค้าแบรนเนมต่างๆ ตลอดสองฝั่งถนน ที่จะต้องถูกใจนักช้อปมีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์เนมยอดนิยม นาฬิกา ROLEX, LOUIS VUITTON และแบรนด์ดังอีกมากมาย อีกทั้งเครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน และของที่ระลึกต่างๆ

*** อิสระรับประทานอาหารเย็น  เพื่อให้ท่านได้เต็มอิ่มกับการช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ***

19.00 น.  จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร......นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเวียนนา (Vienna International Airport)เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

23.25 น.  ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS025 (ใช้เวลาบินโดยรวม 10 ชั่วโมง 05 นาที)

วันพฤหัสฯที่  สนามบินสุวรรณภูมิ
20 เม.ย. 66 

14.40 น.  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ....พร้อมกับความประทับใจมิรู้ลืม 

*** ขอบพระคุณทุกท่านที่วางใจในงานบริการของเรา ***

 

 

 

Visitors: 1,207,152