TURKIYE ถู๊กถูกก เก็บเงินไว้ช้อปปิ้ง 8 วัน 5 คืน

กำหนดการเดินทาง

วันแรก        สนามบินสุวรรณภูมิ               (-/-/-)

19.00.         คณะพร้อมกัน สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4ประตู 9 เคาน์เตอร์ S  สายการบินมาฮานแอร์ (W5) มีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง.

22.00 .         ออกเดินทางสู่กรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน โดยสายการบินมาฮานแอร์  เที่ยวบินที่ W5050(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)(ใช้เวลาบินประมาณ 6.30ม.)

เที่ยวบินและเวลาบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด 

วันที่สอง     สนามบินอิสตันบูล (ประเทศตุรเคีย)  - ท่องเที่ยวย่าน BALAT - เมืองอังการา        (-/-/D)

02.15 น.         ถึง สนามบินเตหะราน (อิหร่าน)  จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย

09.00.         ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยสายการบินมาฮานแอร์  เที่ยวบินที่ W5116 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)(ใช้เวลาบินประมาณ 3ม.)

11.45.         เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (ISTANBUL AIRPORT)สนามบินใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรเคีย  นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง,ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศตุรเคียช้ากว่าประเทศไทย 4-5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ในฤดูหนาว ตุรเคียจะช้ากว่าไทย 5 ชม. (เริ่มประมาณเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์) และฤดูร้อน (เริ่มประมาณ มีนาคม-กันยายน) ตุรเคียจะช้ากว่าเมืองไทย 4 ชั่วโมง

**** โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชม****

สุภาพสตรี : : ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูปและเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะ

สุภาพบุรุษ :: ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาว ไม่รัดรูป      

นำท่านท่องเที่ยวย่าน BALATเป็นย่านที่เก่าแก่และสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อได้มาเยือน ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย พื้นถนนปูด้วยหินก้อนโตๆ บ้านเรือนมีลักษณะเป็นตึก และมีสีสันแจ่มจรัส แต่มีอายุมากกว่า 50 ปีมาแล้ว ซึ่งในบางหลังมีอายุกว่า 200 ปีที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีคาเฟ่และร้านอาหารมากมายตั้งอยู่ที่นี

            ☞จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  เมืองอังการา (ANKARA)  เมืองหลวงของประเทศตุรเคีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล มีความสำคัญทั้งทางธุรกิจและอุตสาหกรรม เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลตุรเคียและเป็นที่ตั้งของสถานทูตประเทศต่างๆ ศูนย์กลางของการค้าขาย ให้ท่านอิสระพักผ่อนบนรถชมวิวเมือง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ

ãที่พัก  SERGAHHOTEL หรือเทียบเท่า

        ☞  นำท่านชม นครใต้ดินชาดัค (UNDERGROUND CITY OF CHADAK) เมื่อ 2-3 พันปีก่อนคริสตกาล ชาวคัปปาโดเชียได้มีการสร้างเมืองใต้ดินเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการบุกรุกของชาวโรมัน ขุดเจาะไปเรื่อยๆ จนใต้พื้นดินคัปปาโดเชียกลายเป็นเมืองอีกหลายๆ เมือง ภายในมีทั้ง โบสถ์คริสจักร โรงเรียนสอนศาสนา โรงเก็บไวน์ คอกไม้ บ่อน้ำ ห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร ฯลฯ และยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้น ให้ท่านได้ชมความมหัศจรรย์เมืองใต้ดินและเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จนถึงเวลาอันสมควร

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ

ãที่พัก  SIGNATURE GARDEN AVANOSHOTEL หรือเทียบเท่า

 

วันที่สี่         *OPTION TOUR ขึ้นบอลลูนชมเมืองคัปปาโดเกีย* หรือ JEEP SAFARI หรือ CLASSIC CAR* - หุบเขานกพิราบ - ผ่านชมหุบเขาพาซาแบค -  หุบเขาอุซิซาร์ - เมืองคอนย่า - คาราวานซาราย - เมืองปามุคคาเล่          (B/L/D)

เช้ามืด            คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ (บริเวณ LOBBY โรงแรม)

OPTION TOUR HILIGHT!!ขึ้นบอลลูนชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกียในมุมสูง (CAPPADOCIA BALLOON VIEW)  การขึ้นบอลลูน นั้นเป็นสัญลักษณ์ของตุรเคีย จะพาให้ท่านเคลิมเคลิ้มไปกับการชมพระอาทิตย์ยามเช้าและชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย แบบพาโนราม่าวิว ชมเมืองอารยธรรมโบราณ เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ สัมผัสบรรยากาศมุมสูง เก็บภาพที่สวยงามรอบตัว

(ค่าใช้จ่ายในการขึ้นบอลลูน ราคาท่านละประมาณ 280USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์ ทั้งนี้.. การขึ้นบอลลูนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เหมาะสม* โดยจะคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ **ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**)

หรือ OPTION TOUR JEEP SAFARIเที่ยวชมเมืองคัปปาโดเกีย ตุรเคีย หนึ่งในการเดินทางที่สุดประทับใจ บนเส้นทางที่สุดตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ของเมืองประวัติศาสตร์นับล้านปี มความงามของหุบเขาที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้าง(ค่าใช้จ่ายในการนั่ง JEEP SAFARI ราคาท่านละประมาณ 120USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)

หรือ OPTION TOUR CLASSIC CAR นั่งรถคลาสสิคเปิดประทุนชมวิวบอลลูนอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็น UNSEEN ของเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ ที่จะต้องมาถ่ายรูปคู่กับบอลลูนสีสันสดใส คู่กับรถเปิดประทุนสุดคลาสสิค นั่งรถเปิดประทุนสูดอากาศเย็นๆ ยามเช้า ชมวิวบอลลูนสดใสบนท้องฟ้า (ค่าใช้จ่ายในการนั่ง CLASSIC CAR ราคาท่านละประมาณ 120USD/ท่าน *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้* สามารถสอบถามและชำระเงินได้ที่หัวหน้าทัวร์)

เช้า                  ä รับประทานอาหารเช้า

แวะถ่ายรูป หุบเขานกพิราบ (PIGEON VALLEY)  จุดชมวิวอยู่ตรงบริเวณหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่  ชาวบ้านเลี้ยงนกพิราบไว้เพื่อนำมูลมาทำเป็นปุ๋ยบำรุงต้นไม้ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ (UCHISAR CASTLE) และยังมีต้นไม้จำลองที่เต็มไปด้วยดวงตาสีฟ้าแขวนอยู่โดดเด่น อิสระถ่ายภาพตามอัธยาศัย

นำท่านผ่านชม หุบเขาพาซาแบค (PASABAG VALLEY)กลุ่มภูเขาหินแปลกตารูปกรวยคล้ายมีหมวกวางอยู่บนสุด อดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของบาทหลวงไซมอนที่เดินทางมาเพื่อปลีกวิเวก แสวงหาที่ปฏิบัติธรรมและได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ (HERMITAGE OF ST.SIMON) และเป็นที่นิยมสำหรับพระอีกหลายองค์ในเวลาต่อมา จนได้รับอีกสมญาว่า THE VALLEY OF THE MONKS

แวะถ่ายรูป         หุบเขาอุซิซาร์ (UCHISAR VALLEY) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัย

เที่ยง               ä รับประทานอาหารกลางวัน

เดินทางสู่  เมืองคอนย่า (KONYA)ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก (.. 1077-1118) อาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรเคีย หรือที่ยุคนั้นเรียกอนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา มีการปลูกฝิ่นและผลไม้อร่อย เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก เป็นที่ตั้งของสุสานเมฟลานา ผู้ริเริ่มการทำสมาธิแบบเป็นวงกลม ในแต่ละปีจึงมีผู้แสวงบุญมาเยือนที่นี่กันเป็นจำนวนมาก (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)

ระหว่างทางแวะ        คาราวานซาราย (CARAVANSARAI)ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตาเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน

            ☞เดินทางสู่  เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (COTTON CASTLE)อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี ประเทศตุรเคีย เป็นเนินเขาหินปูนสีขาว มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน ปามุคคาเล่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับฮีเอราโปลิสซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ใน พ.. 2531(ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ

 

ãที่พัก  TRIPOLIS  HOTEL หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า       เมืองปามุคคาเล่ - เมืองเฮียราโพลิส - ปราสาทปุยฝ้าย - เมืองคูซาดาซี - เมืองโบราณเอฟฟิซุส    (B/L/D)

เช้า                  ä รับประทานอาหารเช้า

นำท่านชม  เมืองเฮียราโพลิส (HIERAPOLIS) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อนซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคเมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไปเช่นโรงละครแอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ

นำท่านชม  ปราสาทปุยฝ้าย (PAMUKKALE)  น้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นแร่หินปูนผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมากไหลลงมาจากภูเขา คาลดากึที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนทำให้ปามุคคาเล่และเมืองเฮียราโพลิสได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.. 1988 ชมความสวยงามของแอ่งน้ำหินปูนธรรมชาติตัดกับหน้าผาที่กว้างขวางมีลักษณะสวยงามมหัศจรรย์แตกต่างออกไปมากมายคล้ายหิมะ ก้อนเมฆหรือปุยฝ้ายน้ำแร่มีอุณหภูมิประมาณ 33 - 35.5 องศาเซลเซียส อิสระเก็บภาพประทับใจจนถึงเวลาอันสมควร

เที่ยง               ä รับประทานอาหารกลางวัน

เดินทางสู่  เมืองคูซาดาซี (KUSADASI)  เมืองท่าที่สำคัญทางการค้าอีกเมืองหนึ่งของตุรเคียที่เป็นสถานที่ตั้งของโบราณสถานที่สำคัญสิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)

 

นำท่านชมเมืองโบราณเอฟิซุส (EPHESUS) เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาว (IONIA) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองไอวาลิก(AYVALIK) เป็นเขตในจังหวัด BALIKESIR ของตุรกีบนชายฝั่งทะเลอีเจียน มันตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งแคบ ๆ ล้อมรอบด้วยเนินเขาเตี้ย ๆ ไปทางทิศตะวันออกซึ่งถูกปกคลุมด้วยไม้สนและต้นมะกอก เมืองไอวาลิกยังถูกล้อมรอบด้วยหมู่เกาะของหมู่เกาะAYVALIK (ที่ใหญ่ที่สุดซึ่งเป็นCUNDA เกาะ) ในทะเลแล คาบสมุทรแคบในภาคใต้ชื่อHAKKIBEY คาบสมุทร AYVALIK เป็นอำเภอทางใต้สุดของ BALIKESIR GÖMEÇ , BURHANIYE และ EDREMIT เป็นอำเภออื่นๆ ของจังหวัด BALIKESIR ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลอีเจียนและพวกเขาจะเรียงรายขึ้นตามลำดับไปทางทิศเหนือ ภูมิภาคนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนทั่วไป (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชม.)

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ

 

ãที่พัก  MUSHO OTEL หรือเทียบเท่า

วันที่หก      เมืองไอวาลิก - เมืองอิสตันบูล - สุเหร่าเซนต์โซเฟีย - สุเหร่าสีน้ำเงิน - ฮิปโปโดรม - จตุรัสทักซิม (B/L/-)

เช้า                  ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

                        เดินทางสู่  เมืองอิสตันบูล (ISTANBUL)  เมืองสำคัญอันดับ 1ของประเทศ เดิมชื่อ คอนแสตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรเคีย ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส(BOSPHORUS) ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีปคือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง THRACE ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย) ซึ่งในอดีตอิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญของชนเผ่าจำนวนมากในบริเวณนั้น จึงส่งผลให้อิสตันบูลมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป  (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม.)

เที่ยง               ä รับประทานอาหารกลางวัน 

นำท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (MOSQUE OF HAGIA SOPHIA)หรือวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ HAGHIA SOFIA (ฮายาโซฟีอา) บางคนอาจออกเสียงฮาเกียโซเฟีย หรือในภาษาตุรเคียเรียก AYASOFYA เซนต์โซเฟีย แปลว่า โบสถ์แห่งปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ คำว่า "SOFIA" มาจากคำในภาษากรีกที่แปลว่า "ปัญญา" จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับนักบุญที่ชื่อ SOFIA แต่อย่างใด เซนต์โซเฟียนับเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่มีความสวยงามอลังการ ตั้งอยู่ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล (CONSTANTINOPLE) หรือปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย สุเหร่าแห่งนี้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 ในยุคกลาง สร้างในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ 

นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE)หรือ SULTAN  AHMET MOSQUEถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรเคีย สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค..1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ SULTAN AHMED นั้นเอง

  นำท่านชม จัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม (HIPPODROME) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเซปติมิอุสเซเวรุสเพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้นตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธีแต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมตซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ ต้น คือเสาที่สร้างในอียิปต์เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูลเสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือเสาคอนสแตนตินที่ 7

นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า พระราชวังทอปกาปี (TOPKAPI PALACE) ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ในนครอีสตันบูล เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน สามารถพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิลไว้ได้ จึงมีคำสั่งให้สร้างพระราชวังขึ้นมาใหม่และให้ชื่อพระราชวังแห่งใหม่นี้ว่า พระราชวังวังนิวอิมพีเรียล เวลาผ่านไปด้วยการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง โดยพระราชวังวังนิวอิมพีเรียล (IMPERIAL NEW PALACE) ยังคงถูกใช้เป็นคลังของจักรวรรดิ, ห้องสมุด และโรงเหรียญกษาปณ์ และถูกตั้งชื่อใหม่ว่าทอปกาปี (TOPKAPI) ซึ่งมีความหมายว่า ประตูปืนใหญ่ และต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ปัจจุบันยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อิสตันบูล ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขององค์การยูเนสโก พระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสโกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน และในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน

 นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสทักซิม (TAKSIM SQUARE) ตั้งอยู่ในย่านเบโยกลู ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูลประเทศตุรเคีย เป็นสถานท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียง และถือเป็นหัวใจ ของนครอิสตันบูลสมัยใหม่ โดยคำว่า TAKSIM หมายถึง “การแบ่งแยก” หรือ “การกระจาย” ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ สุลต่านมะห์มุด 1 (SULTAN MAHMUD I) ด้วยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ อ่างเก็บน้ำหินยุคออตโตมัน และเป็นจุดที่สายน้ำหลัก จากทางตอนเหนือถูกรวบรวม และกระจายออกไปยังส่วนอื่นๆ ของเมือง นอกจากนี้คำว่า ทักซิม (TAKSIM) ยังหมายถึง รูปแบบดนตรีพิเศษในเพลงคลาสสิก ของประเทศตุรเคียอีกด้วย ในปัจจุบันจตุรัสแห่งนี้ เป็นสถานที่ใช้ในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ขบวนพาเหรด ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือการพบปะทางสังคมอื่นๆ และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ 

 

วันที่เจ็ด      เมืองอิสตันบูล - สนามบินอิสตันบูล (ตุรเคีย) - สนามบินเตหะราน (อิหร่าน)                               (B/-/-)

เช้า                  ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 

หลังรับประทานอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล

11.35.         ออกเดินทางสู่กรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน โดยสายการบินมาฮานแอร์  เที่ยวบินที่ W5113 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)(ใช้เวลาบินประมาณ 3ม.)

15.00.         ถึง สนามบินเตหะราน (อิหร่าน)  จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย

21.45.         ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินมาฮานแอร์  เที่ยวบินที่ W5051 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)(ใช้เวลาบินประมาณ 6.30ม.)

 

วันที่แปด    สนามบินสุวรรณภูมิ

07.50 น.         เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

 

**********************************************

ระหว่างทางแวะร้านช้อปปิ้ง : โรงงานพรม , โรงงานจิวเวอร์รี่ , เครื่องปั้นดินเผา , โรงงานเครื่องหนัง , ร้านขนม

 

Visitors: 1,206,393