ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ 9 วัน 7 คืน

“ปากีสถาน” ดินแดนที่รอคุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง วันนี้เราจะพาท่านไปสัมผัสถึงความงามมนเสน่ห์แห่งหิมาลัย ทะเลสาบสีเขียวมรกต บนเส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ 

เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์-หุบเขาฮุนซ่า-ด่านช่องเขาคุนจีราบ

❤ บินตรง สู่ กรุงอิสลามาบัด โดย สายการบินไทย

 เจาะช่วงที่สวยที่สุดของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีทางตอนเหนือของปากีสถาน

เก็บภาพสีสันแห่งหุบเขาใบไม้เปลี่ยนสีของการ ช่วงเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน เท่านั้น

เต็มอิ่มกับวิวสุดยอดขุนเขาหิมาลัยและเส้นทางคาราโคลัม ไฮเวย์ ขุนเขาที่ต่อเชื่อมกันใน จนกลายเป็นยอดเขาหิมะที่สูงใหญ่วางเรียงตัวอย่างสลับซับซ้อน  ด้านล่างบ้างเป็นธารน้ำแข็ง  บ้างเป็นทะเลสาบสีฟ้าใสราวกับเทอควอยซ์

ทริปนี้เราเน้นเก็บภาพใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขา ธารน้ำแข็ง แสงอาทิตย์ขึ้นและตก แบบเน้นๆๆ จัดเต็มสุด ๆ

สะพานวัดใจ อายุร้อยปียอดเขาหิมะทะลุเมฆเลดี้ ฟิ้งเกอร์

เมืองโบราณตักศิลา (Taxila) และ ซากพุทธสถานโบราณ

คาราโครัม ไฮเวย์ (Karakoram highway) เส้นทางในฝันของนักเดินทางมืออาชีพ

ชมศิลปวัฒนธรรมของชาวปากีสถาน และศิลปกรรมทางศาสนา

คุนจีราบ ช่องทางการค้าที่สูงที่สุดในโลก จุดบรรจบแห่งอารยะธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ ที่นี่คือด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก

เส้นทางสายไหมเทือกเขา หิมาลัยโบราณชายแดนปากีสถาน–จีนที่อยู่สูงที่สุดในโลก

อาหารไทยเสริม ทุกมื้อเที่ยวให้มีความสุขกับเส้นทางเลียบหิมาลัย ผู้ชำนาญตัวจริง

ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคลและสุขภาพครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศและต่อเนื่องในประเทศไทย

เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

 รายการท่องเที่ยว

วันที่-1

กรุงเทพฯ - อิสลามาบัด

x

x

x

16.00 น.     ” คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4  เคาท์เตอร์  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4  เคาท์เตอร์  ชั้น 4 ประตู 4 หรือ 5 เคาท์เตอร์การบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน

หมายเหตุ : ท่านต้องแสดงวัคซีนพาสปอร์ตหรือเอกสารการได้รับวัคซีน Covid 19  (International Vaccine Certificate)    ขณะเช็คอิน

19.00น.     ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่กรงอิสลามาบัด โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 349 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

 22.10 น.    เดินทางถึง อิสลามาบัด (Islamabad)เวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองตามเวลาท้องถิ่นปากีสถาน นำท่านเดินทางสู่โรงแรม…พัก Pearl Continental  (Islamabad) หรือเทียบเท่าคืนที่ 1

“ประเทศปากีสถาน” เป็นประเทศที่หลายคนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่มีหลายคนที่ยังไม่เข้าใจเหมือนกันที่คนทั่วโลกมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับปากีสถาน....

v  คนที่อยู่ในปากีสถานและประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้พูดภาษาอาหรับ....

v  คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าปากีสถานอยู่ในตะวันออกกลาง ...ปากีสถานไม่ได้อยู่ในตะวันออกกลาง......

v  ปากีสถานใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการมานานกว่า 67 ปีแล้ ว.....

v  คิดว่าปากีสถานมีภูมิประเทศเป็นทะเลทรายเหมือนกับซาอุดิอาระเบีย ....ปากีสถานไม่ได้เป็นทะเลทราย

v  ปากีสถานไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายเสมอไป....ปากีสถานเต็มไปด้วยนักสู้สตรี…

v  เมืองหลวงอิสลามาบัด.สร้างขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 ...แทนนครการาจี

วันที่-2

อิสลามาบัด –เมืองโบราณตักศิลา- นาราน

B

L

D

06.30 น.           บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น             เดินทางไปยัง หุบเขา Naran Kaghan หุบเขาที่สวยงามอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขต Mansehra       หุบเขา Naran Kaghan ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากปากีสถาน

ระหว่างทาง      นำท่านแวะ เมืองตักศิลา (Taxila) อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐปัญจาบ เป็นที่ตั้งของอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่แห่งแคว้นคันธาระ เมืองตักศิลา อดีตเป็นนครหลวงแห่งแคว้นคันธาระ (Ghandara)เมืองมหาวิทยาลัย ศูนย์กลางการศึกษาศิลปะและวิทยาการแขนงต่าง ๆ ของอินเดียโบราณตั้งแต่ก่อนพุทธกาลเดิมชื่อว่า ตักชาศิลา-Takshasila เป็นภาษาสันสกฤต ต่อมาเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล ได้มาหยุดพักที่เมืองนี้แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นตักศิลา...

                         นำท่าน ยี่ยมชมเมืองโบราณตักศิลา(Taxila) และซากพุทธสถานโบราณ รวมทั้งอารามพุทธจูเลียนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 2 ถึง พุทธศตวรรษที่ 5 สถูปธรรมราจิกา (ศตวรรษที่ 2 ถึง ค.ศ. 5)

                         ชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) เก็บรวบรวมหลักฐานความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ รวมถึงซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม เหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระจำนวนมาก

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย               เดินทางต่อไป เมืองนาราน ผ่านเมือง พระอาบบอตาบัด มานเชราห์ บาลากอต และแม่น้ำ Kunhar ผ่านหุบเขาที่สวยงามของ Kaghan เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดในเขต Hazara ภูมิอากาศของภูมิภาคนี้เป็นภูเขาสูงและป่าไม้และทุ่งหญ้าเป็นภูเขา

ถึง                 นำท่านเยือนNaran Bazaar มีคนจำนวนมากมาตลาดแห่งนี้ในช่วงฤดูร้อน มีโรงแรมและร้านอาหารให้บริการมากมาย

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

** พักที่โรงแรม Hotel One, Naran (หรือเทียบเท่า) คืนที่ 2

วันที่-3

นาราน - คารีมาบัด – ฮุนซ่า

B

L

D

เช้า               บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคาริมาบัด (Karimabad) ที่ตั้งแห่ง หุบเขาฮุนซ่า (Hunza) ใช้เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ (Karakoram Highway) เส้นทางเส้นนี้ท่านจะได้รับความเพลิดเพลินชมทัศนียภาพของเส้นทางหลวง คาราโครัมไฮเวย์ ระหว่างทางแวะถ่ายภาพ ทะเลสาบลูลูซ่าร์ Lalusar lakeทะเลสาบที่มีความสูง 3,410 เมตร (11,190 ฟุต) และเป็นต้นกำเนิดหลักของแม่น้ำ Kunhar ไหลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ตลอดแนวหุบเขาคากัน ผ่านจาลคานด์ นารัน คาฮัน จาเร็ด ปารัส และบาลาคอต จนกระทั่งบรรจบกับแม่น้ำเจลุม แวะจุดคาริมาบัดชมวิวราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) เพื่อชมบรรยากาศยอดเขาและความงดงามของยอดเขาราคาโปชิอย่างใกล้ชิดจนรู้สึกเหมือนจะสัมผัสได้ยอดเขาแห่งนี้ถูกจัดความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลกซึ่งสูงถึง 7,790 ระหว่างทางวิวสวยงามอลังการ

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

                      ผ่านหุบเขาของโคฮิสตันตามแม่น้ําอินดัสอันยิ่งใหญ่ มีแม่น้ำสินธุไหลผ่าน เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในปากีสถาน และเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 21 ถือเป็นเส้นเลือดและเส้นชีวิตของชาวปากีสถาน ต้นกำเนิดของแม่น้ำสินธุอยู่บริเวณที่ราบสูงทิเบต มีความยาวรวมของแม่น้ำมีความยาว 3,180 กิโลเมตร อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ประมาณ 2500 - 1900 ก่อนคริสตกาล ถือกำเนิดขึ้นบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศอินเดียและปากีสถานในปัจจุบัน ถือเป็นอารยธรรมยุคแรกๆของโลก ... แวะชมและถ่ายภาพจุดตัดของ 3 แนวเทือกเขา คือ เทือกเขาคาราโครัม เทือกเขาฮินดูกูช และ เทือกเขาหิมาลัย โดยมีแม่น้ำกิลกิต และ แม่น้ำสินธุ ไหลมาบรรจบกันก่อเกิดเป็นแม่น้ำสินธุ.....เดินทางต่อสู่เมืองคาริมาบัด (Karimabad) 

 

 ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

** พักที่โรงแรม Darbar Hotel (หรือเทียบเท่า) คืนที่ 3

วันที่-4

(คารีมาบัด) - ฮอปเปอร์กราเซีย - ดุยเกอร์

B

L

D

เช้า                  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

                        จากนั้นนำท่านเดินทาง หุบเขานากา (Nagar Valley) ใน ฮอปเปอร์ วัลเล่ย์ Hoper Valley โดยเปลี่ยนเป็นรถจี๊ปเล็ก  หุบเขานากาเคยเป็นเมืองหลวงของอดีตรัฐนากาในอดีตเคยเป็นรัฐที่ปกครอจนกระทั่งล่มสลายลงใน ค.ศ.1974เป็นสถานที่นิยมสำหรับชื่นชมทัศนียภาพของยอดเขาโดยรอบทั้งยอดเขา Rakaposhi ยอดเขา Diran และอื่น ๆ กว่า 30 ยอดเขาและ Hoper Valley เป็นจุดชมวิวอันสวยงามจุดนึงของหุบเขานากา

 

** วันนี้แนะนำว่านำปากกา ขนม ไปแจกเด็ก ถ่ายรูปกับเด็กๆ แล้วจะรู้ว่าเด็กๆที่นี่นั้นน่ารักขนาดไหน

                       นำท่านชม กราเซียฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นกราเซียที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักเมื่อเทียบกับที่อื่น ๆ แต่ความโด่ดเด่นของกราเซียฮอปเปอร์จะมีสีดำ ท่านจะได้เห็นกราเซียที่สั่งสมกาลเวลายาวนานจนแทบเปลี่ยน จากน้ำแข็งกลายเป็นหินซึ่งเห็นได้จากความเก่าแก่สีออกเทาของกราเซียแห่งนี้ ...ได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับคารีมาบัด

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น         นำท่านชมป้อมโบราณอายุประมาณ1,100 ปี  ชื่อป้อมอัลติท (Altit Fort) และป้อมบัลติท (Baltit Fort) สัญลักษณ์ของหุบเขาฮุนซ่าเป็นที่อยู่ในอดีตของเหล่า ผู้ปกครองฮุ่นซ่าที่มีอายุประมาณ 700 ปี แต่ได้มีการบูรณะ ซ่อมแซมเสมอมา ทั้ง สถาปัตยกรรมแบบ บัลติสถานผสมผสานกับทิเบต และในปัจจุบันบัลติตฟอร์ดยังอยู่ในรายชื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกของ Unesco อีกด้วย ชมหมู่บ้านอายุกว่า 1,000 ปี ชนเผ่าที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแรกๆ ในแคว้นกิลกิต-บัลติสถาน ลักษณะโดยทั่วไปจะเป็นคนผิวขาวมีในตาสีฟ้า หน้าคม เหมือนคนชาวยุโรป เพราะเป็นลูกหลานของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่กรีฑาทัพไปตีชมพูทวีป เมื่อประมาณ 326 ปีก่อนคริสตกาล...อายุของพวกเขามากกว่าสตรีชาวญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มีอายุยืนมากที่สุดในโลกที่เพิ่งจะเสียชีวิตไปขณะที่มีอายุ 117 ปี  แต่กล่าวกันว่า ชนเผ่าฮุนซาสมีอายุถึง 120 หรือ 130 ปี  ซึ่งอายุขนาดนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ  และชาวฮุนซาสที่มีอายุ 90 ปี ก็ยังไม่ถือว่าแก่.....นำท่านเดินและชมวิวรอบเมืองฮุนซ่าได้จากที่นี่

จากนั้น          พาไปเยี่ยมชมย่านการค้าของเมืองคาริมาบัด ชมวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่อยู่อย่างพอเพียง อิสระเดินเล่นชมร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึกที่ตั้งตลอดแนวบนถนนสายหลักของเมืองและช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมายนำท่านเข้าสู๋ที่พัก

ค่ำ                  บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

** พักที่โรงแรม Eagle Nest Duiker Hotel (หรือเทียบเท่า)คืนที่ 4 (มี Wi-Fi)

วันที่-5

ดุยเกอร์ - ด่านกุนจีราบ - พาสสุ

B

L

D

ยามเช้าตรู่      นำท่านขึ้นไปยังดุยเกอร์ (Duicker) จัดว่าเป็นหลังคาของฮุนซ่าบนรังพญาอินทรี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ชมยอดเขาเลดี้ฟิงเกอร์ (Lady finger) หรือ ยอดเขาทะลุทะเลเมฆ เป็นยอดเขารูปทรงประหลาด สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็นมาตลอดเวลาที่มันยืนตระหง่านทะลุทะเลเมฆอยู่ตรงนั้น ด้วยรูปทรงแหลมชูชันตั้งขึ้นเหมือนพีระมิดหรือปลายหอก ไม่เคยมีหิมะปกคลุมเลย ในขณะที่เทือกเขาโดยรอบมีหิมะขาวห่มปกเกือบตลอดเวลา ทำให้ยอดเขา Ladyfinger ยิ่งเตะตากว่าใครๆ ตัวของมันเองมีความสูงกว่า 600 เมตร ตั้งอยู่บนระดับความสูงกว่า 6,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

07.00 น.          บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น          นำท่านสู่ช่องเขาคุนจีราบและอุทยานแห่งชาติ (Khunjerab Pass and National Park ) ช่องทางการค้าที่สูงที่สุดในโลก บนเส้นทางสายไหมตอนใต้ สู่ถนนสูงเสียดฟ้า คาราโครัมไฮเวย์ ด่านพรมแดนกุนจีราบ ในช่วงเขตรอยต่อระหว่างปากีสถานและจีน เป็นที่ตั้ง ด่านพรมแดนกุนจีราบ ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 4,730 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงที่สุดบนถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัม พรมแดนช่องเขากุนจีราบนี้เปิดให้มีการเดินทางข้ามแดนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1986 เป็นต้นมา เส้นทางสายคาราโครัม (Karakoram Highway)บนทางหลวงลอยฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของโลกเส้นทางหนึ่ง คาราโครัมไฮเวย์ตัดผ่านจุดบรรจบกันของเทือกเขาคาราโครัม เทือกเขาฮินดูกูช เทือกเขาคุนหลุน เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาปามีร์ (ที่ตั้งของ K2 ยอดเขาสูงอันดับ 2 ของโลก

                        ระหว่างทางแวะชม‘ทะเลสาบอัตตาบัต’ (Attabad Lake หรือ Gojal Lake) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี 2009 ลงมากั้นแม่น้ำฮุนซ่า จนกลายเป็นทะเลสาบสีเทอควอยส์แบบนี้ซึ่งทะเลสาบนี้มีความยาว 21 เมตร และความลึก 103 เมตร รอบๆทะเลสาบบางส่วนจะเห็นดินที่ถล่มลงมาจนกลายเป็นเขื่อนกั้นทะเลสาบ การเดินทางขึ้นเหนือไปจีนก่อนหน้านี้  ต้องใช้ทางเรือเท่านั้น ทางจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ลอดเขาเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางคาราโครัมใหม่ จนทะเลสาบอัตตาบัตกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในปัจจุบันและจุน้ำได้มากกว่า 410,000,000  ลูกบาศก์เมตร นอกจากการชมวิวธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตาที่มีเทือกเขาขนาดมหึมาโอบล้อมทะเลสาบไว้แล้ว ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมธรรมชาติด้วย โดยมีเรือไว้บริการมากมาย

จากนั้น            นำท่านเดินทางทางต่อไป เมืองพาสสุ (Passu) เมื่อผ่านด่านพรมแดนกุนจีราบเข้าสู่ เมืองซอสท์ (Sost) เมืองพรมแดนเมืองแรกของปากีสถาน ที่มีชาวจีนเดินทางมาทำการค้าและแวะพัก สามารถเดินทางต่อสู่ เมืองพาสสุ (Passu) ที่ตั้งอยู่บนความสูง 2,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระหว่างทางแวะถ่ายรูปธารน้ำแข็งที่ไหลเลื่อนมาจนติดถนนหลวง ยอดเขาหิมะและภูเขาสูงรูปทรงแปลกตามากมาย ป่าเปลี่ยนสี นาขั้นบันได บ้านเรือนของชาวกุลมิต พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบดั่งดินแดนเทพนิยายบนสรรค์

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

                      นำท่านแวะบันทึกภาพกับ จุดชมวิว พาสสุ กลาเซียร์ (Passu Glacier)  และธารน้ำแข็งบาตูรา  ไฮไลต์บนเส้นทางเมืองพาสสุ ธารน้ำแข็งเมืองพาสสุ คือการได้ชมธารน้ำแข็งสุดขอบฟ้าขนาดมหึมา 2 แห่งคือ ธารน้ำแข็งสีขาว (White Passu Glacier) และ ธารน้ำแข็งสีดำบาทูร่า (Black Batura Glacier) รวมทั้ง เทือกเขาพาสสุ (Passu Cones) หรือเทือกเขาฟันเลื่อย (Cathedral Mountain) ที่มียอดแหลมหลายยอดในภูเขาเดียว ซึ่งแต่ละแห่งล้วนยิ่งใหญ่และสวยงามแปลกตา ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต

เดินทางต่อ        สู่ช่องเขาคุนจีราบและอุทยานแห่งชาติ (Khunjerab Pass and National Park ) จุดบรรจบแห่งอารยะธรรมโบราณบนเส้นทางสายไหมอันเก่าแก่ ที่นี่คือด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก สูงจากระดับนํ้าทะเลกว่า 4,730 เมตร บนเทือกเขาคาราโครัม ซึ่งเดินทางตามแนวเส้นทางสายไหมโบราณที่เชื่อมเอเชียกลางสู่ยุโรป เทือกเขาหิมะสลับซับซ้อนเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ และสามารถพบเห็นสัตว์หายาก เช่นตัว Ibex หรือ แพะภูเขา Yak ที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาสูง จนถึงจุดสุดท้ายที่ด่านชายแดนระหว่าง ปากีสถาน และ จีน ก่อนที่จะออกไปยังประเทศจีนบนเส้นทางสายไหมที่ซินเกียง

 

พาคณะไปทำเรื่องผ่านด่านที่เมืองซอสท์ sost ด่านพรมแดนคุนจีราบ (Khunjerab Pass) ด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 4,730 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเป็นจุดที่มีความสูงที่สุดบนถนนหลวงลอยฟ้าคาราโครัม ด่านชายแดนระหว่าง ปากีสถาน และ จีน ก่อนที่จะออกไปยังประเทศจีนบนเส้นทางสายให้ที่ซิเกี่ยงสร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าได้มายืนอยู่ ณ เส้นทางประวัติศาสตร์โลก  ......ได้เวลาอันสมควรนำท่าเดินทางกลับไปยังพาสสุ เข้าสู่ที่พัก

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

** พักที่โรงแรม Passu Ambassador (หรือเทียบเท่า) คืนที่ 5

วันที่-6

พาสสุ - กิลกิต

B

L

D

07.00 น.          บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้น          นำท่านแวะบันทึกภาพกับ ‘สะพานฮุซไซนี’ (Hussani Bridge)สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงที่อังกฤษปกครองหมู่บ้าน Shishkat ใน Gojal ระหว่างการสร้างทางหลวงไปสู่เทือกเขาคาราโครัม ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงทำให้มีการเดินทางลำบากทำให้ต้องสร้างสะพานแขวนแห่งนี้ขึ้น สะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน Shishkat ไปสู่หมู่บ้าน Hussaini โดยสร้างขึ้นตามคำสั่งของ “เมียร์แห่งฮันซ่า” หรือผู้ปกครองในหุบเขาฮันซ่าที่ ต้องการสร้างทางเดินไปสาหมู่บ้านซาร์อาบัดอีกฟากหนึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้คน

จากนั้น          นำท่านเดินทางไป กิลกิต (Gilgit) Gilgit-Baltistan ดินแดนที่ราบสูงตอนเหนือปากีสถานกิลกิตเคยเป็นศูนย์กลางสำคัญของพระพุทธศาสนา เป็นจุดแวะที่สำคัญบนเส้นทางสายไหม โบราณ และปัจจุบันเป็นจุดเชื่อมต่อหลักตามทางหลวงคาราโครัม ที่ มีถนนเชื่อมต่อไปยังประเทศจีนรวมทั้งเมืองสการ์ดูจิตราลเปชาวาร์และอิสลามาบัดของ ปากีสถาน

 เที่ยง            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย              นำท่านแวะชมพระพุทธรูป “พระพุทธรูปคาร์กาห์” (Kargah Buddha) มรดกแห่งพุทธศาสนาที่ยังคงเหลืออยู่ใน “ปากีสถาน” พระพุทธรูปที่ถูกแกะสลักไว้บนหน้าผา ในหุบเขาคารกาห์ (Kargah Valley) ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถูกคนพบพร้อมกับเจดีย์ 3 องค์ซึ่งสูง 400 เมตรในช่วงปี ค.ศ.1938-1939 เคยตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักคาร์กาห์นี้ที่ถูกเล่าขานโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ตามตำนานระบุว่า กาลครั้งหนึ่ง บริเวณแถบนี้เป็นที่อยู่ของยักษ์กินคนนางหนึ่ง ที่เรียกกันว่า “ยักษิณี” (Yakhsni) ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์ตนนี้ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทาง และนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีตนนี้ไว้ที่ก้อนหิน …..ชม สะพานแขวนเชือกเก่าและกิลกิตบาซาร์ นำท่านแวะย่านการค้าเมืองกิลกิต

 ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

 ** พักที่โรงแรม Gilgit Serena Hotel (หรือเทียบเท่า) คืนที่ 6

วันที่-7

กิลกิต - เมืองชีลาส -นาราน

B

L

D

07.00 น.           บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

                        เมืองกิลกิต ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นสถานีชายแดนสำหรับพื้นที่ชนเผ่าในท้องถิ่น กิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมืองมุ่งเน้นไปที่การเกษตร เป็นหลัก โดยมีข้าวสาลี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และข้าวบาร์เลย์เป็นพืชผลส่วนใหญ่.

                         ผ่านเมือง เมืองชีลาส (Chilas) นำท่านแวะชม โขดหินจารึกภาพเขียนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ของเมืองชีลาส ซึ่งโขดหินจารึกเหล่านี้จะปรากฏให้เห็นเป็นระยะตลอดเส้นทางสายไหม เส้นทางที่เคยมีพ่อค้าวาณิชมากมายผ่านไปมา โดยที่เมืองชีลาสนี้ ถือเป็นจุดศูนย์รวมโขดหินจารึกภาพโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มีการค้นพบหลักฐานมากกว่า 20,000 ชิ้นเกี่ยวกับศิลปะโบราณและภาพเขียน

เที่ยง             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย               เดินทางต่อไป เมืองนาราน ซึ่งเดิมมาจากหุบเขา Naran และหุบเขา Kaghan ซึ่งอยู่ติดกัน ตามภูมิศาสตร์ เมืองนาราน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาคากันที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ระดับความสูง 2,409 เมตร อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของหุบเขา Kaghan ถึงเมืองนาราน.....นำท่านเข้าที่พัก

ค่ำ                บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม และอิสระตามอัธยาศัย

** พักที่โรงแรม Hotel One Naran (หรือเทียบเท่า) คืนที่ 7

วันที่-8

นาราน - อิสลามาบัด

B

L

D

07.00 น.          รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

                        เดินทางไปยัง อิสลามาบัด เป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ในเขตการปกครองเมืองหลวงอิสลามาบาด มีพื้นที่ 906 ตารางกิโลเมตร ประชากร 805,000 คน สร้างขึ้นในคริสต์ทศวรรษ 1960 เพื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครการาจี เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศปากีสถานเป็นอันดับที่ 9 ส่วนมหานครอิสลามาบาด-รวัลปินดี

เที่ยง             บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย               นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque)ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย สร้างโดยกษัตริย์ไฟซาลแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียใช้เงินงบประมาณ การสร้างสูงถึง 50 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 1987 ออกแบบโดยชาวตุรกี

                      แวะชมวิวอิสลามาบัด ดามัน-อี-เกาะ Daman-e-Kohจุดชมวิวและสวนบนเนินเขาทางตอนเหนือของกรุงอิสลามาบัด และตั้งอยู่กลางเนินเขา Margalla ชื่อของมันคือการรวมกันของคำภาษาเปอร์เซียสองคำ ซึ่งรวมกันหมายถึงตีนเขา อยู่ห่างจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 ฟุตและห่างจากเมืองอิสลามาบัดเกือบ 500 ฟุต เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนเมืองหลวง

                      จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสนค้าพื้นหรือของที่ระลึกของฝากก่อน...อำลาปากีสถาน

18.30 น.        บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

20.00 น.        เดินทางสู่สนามบิน อิสลามาบัค  เช็คอิน เที่ยวบินที่ TG 350  ออกบินเวลา 23.20 ถึงกทม 06.25 

23.20  น.      ออกเดินทางจาก อิสลามาบัด โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ TG350

วันที่-9

กรงุเทพฯ

x

x

x

06.25น.        เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

หมายเหตุ :  เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคำแนะนำการเปลี่ยนแปลงการนัดหมายเวลาในการทำกิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์ บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

 

อัตราค่าใช้จ่าย: Autumn ปากีสถาน 7 คืน 9 วัน

ผู้ใหญ่พัก 2 ท่านต่อห้อง หรือ เด็กอายุน้อยกว่า 11 ปีบริบูรณ์ พัก 2 ท่านต่อห้อง

หรือพัก 3 ท่านต่อห้อง

59,900.-

บาท.

พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ

9,800.-

บาท

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงิน ุ จากราคาทัวร์ (TG) เริ่มต้นที่ท่านละ

(ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

35,000 – 50,000

 

บาท

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืนทั้งใบ (BKK-ISB//ISB-BKK)

16,000.-

บาท

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ

และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 5 มีนาคม 2565) **

 

การชำระเงิน

ยืนยันทริป : โอนเงินมัด สำรองที่นั่งท่านละ 21,000 บาท ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอนหรือตาม เจ้าหน้าที่    กำหนด พร้อมสำเนาหน้าพาสปอร์ตผู้เดินทาง

งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ (35 วันก่อนออกเดินทาง) ก่อนออกเดินทางหรือตามเจ้าหน้าที่กำหนด

อัตราค่าใช้จ่ายรวม

    ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด โดยสายการบินไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด - กรุงเทพฯ (กระเป๋าเดินทางน้ำหนักตามที่สายการบินกำหนด)

    ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีน้ำมัน และค่าประกันภัยทางอากาศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)

    ค่าที่พักโรงแรมตามที่ระบุตลอดการเดินทาง พักห้องคู่ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)

    ค่าอาหารตามโปรแกรมที่ระบุและน้ำเปล่าภายในภัตตาคาร ระหว่างมื้ออาหาร (เป็นอาหารท้องถิ่นแบบอิสลามทานง่ายและมีอาหารไทยเสริม ทุกมื้อ)

    ค่าวีซ่าปากีสถานแบบท่องเที่ยวอยู่ได้ 15 วัน ( E tourist visa ) เข้าได้ 1 ครั้ง

    ค่าน้ำเปล่าท่านละ 2 ขวด/วัน/และบนรถโค้ช  

    ค่าพาหนะ รถรับ-ส่ง ตลอดการเดินทาง

    ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามระบุในโปรแกรม

    ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท (คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 6-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ ระหว่าง 76 ปีขึ้นไปจะมีเบี้ยประกันคุ้มครอง 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 85 ปี ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคุ้มครอง) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ(ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)และหลังจากกลับจากต่างประเทศต่อเนื่องอีก 7 วัน  วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต

อัตรานี้ไม่รวมถึง

  • ค่าทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และเอกสารวีซ่าของคนต่างด้าว
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าตรวจ PCR Test ในกรณีที่สายการบินมีข้อกำหนดให้มีการแสดง ณ จุดเชคอิน
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากรายการ
  • รวมทิปไกด์ ท้องถิ่น และคนขับรถ 50 เหรียญ ต่อลูกค้า/ท่าน/ตลอดการเดินทาง
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ

  • สำหรับห้องพัก 3 เตียงกรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้เปิดห้องพัก 2 ห้องเพื่อสะดวกกับท่านมากว่า
  •   กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ปหรือตั๋วหมู่คณะ หากออกตั๋วแล้วไม่สามารถขอเงินคืนได้และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ นำหนักไม่เกิน 20 กก. /กระเป๋าถือขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 7 กก
  • เสื้อผ้าลำลองสำหรับใส่เที่ยวตามเมืองทั่วไป   เน้นสีสันสดใสได้เลยจ้า แต่ขอเน้นสุภาพ

 กรณียกเลิก

   หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท

   ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง)

  แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์ + ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท

  แจ้งยกเลกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100 % ของราคาทัวร์

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม

Visitors: 1,207,295