สะบายดี สงกรานต์ อุดร เวียงจันทน์ หลวงพระบาง วังเวียง 4 วัน 3 คืน

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรก           กรุงเทพฯ – อุดรธานี – สะพานมิตรภาพไทย-ลาว – นครหลวงเวียงจันทน์ – วัดศรีเมเมือง – ประตูชัย – นั่งรถไฟความเร็วสูง – หลวงพระบาง – ตลาดมืดหลวงพราง

06.00.          — พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก (ระหว่างประเทศ) ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน THAI SMILE (WE)โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนออกเดินทาง

08.05 .          Qออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานีโดยสายการบินTHAI SMILE เที่ยวบินที่ WE002

เช้า                  ä รับประทานอาหารเช้า แบบ SET BOX

                        จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จังหวัดหนองคาย

                        เดินทางถึง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตม.ไทย เพื่อเดินทางออกจากประเทศไทย

                        เอกสารที่ต้องเตรียม  

                    *หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) มีอายุเดินทางมากกว่า 6 เดือน

                    เดินทางเข้าด่านข้าม สะพานมิตรภาพไทย-ลาวถึงด่านลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ตม. สปป.ลาว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมือง นครหลวงเวียงจันทน์

นำท่านชม วัดศรีเมืองหรือ วัดสีเมือง ในภาษาลาว แห่งนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ที่วัดศรีเมืองแห่งนี้จัดเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาวมานานแสนนาน วัดศรีเมืองหรือวัดเจ้าแม่ศรีเมืองเป็นสถานที่ตั้งของศาลหลักเมืองเวียงจันทน์ จากนั้นนำท่านชม ประตูชัยซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะและอธิปไตยของลาว

เที่ยง                ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารเฝอแซ่บ

บ่าย             นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง ขบวนล้านช้าง EMU จากนครหลวงเวียงจันทน์สู่เมืองหลวงพระบาง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 55 นาที) โดยใช้ความเร็วมากกว่า 120-160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

                    หมายเหตุ : ตารางเวลาเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง EMU อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ     

              

                                      

เย็น                  ä รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารท้องถิ่น อาหารพื้นเมืองหลวงพระบาง (มื้อที่ 3)

                        หลังอาหารอิสระเดินเที่ยวชมสินค้า ตลาดมืดหลวงพระบาง มีสินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึกต่างๆ ที่วางขายเต็มท้องถนนเมืองหลวงพระบาง อิสระตามอัธยาศัย

                        

นำท่านพักที่ã PULLMAN LUANG PRABANG หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว«««««

 

วันที่สอง         ตักบาตรข้าวเหนียว – ตลาดเช้า – วัดเชียงทอง – หมู่บ้านช่างไห – ถ้ำติ่ง – น้ำตกตาดกวางสี – เขาพระธาตุพูสี 

05.30 .          เชิญท่านร่วมทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียว(ไม่รวมค่าชุดตักบาตร) พร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในตอนเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะเดินออกบิณฑบาตเป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจและสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบาง นำท่านชมตลาดเช้าเมืองหลวงพระบางซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองท่านสามารถเลือกซื้อเลือกชมเช่นของป่าแบบฉบับชาวลาว ซึ่งยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้  แวะทานปาท่องโก๋ + กาแฟโบราณร้านประชานิยม สัมผัสรสชาติดั้งเดิม จากนั้นกลับสู่โรงแรม

                         

เช้า               ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม          

                     นำท่านชม   วัดเชียงทอง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2101-2103 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้เคยปกครองทั้งล้านนาและล้านช้าง โดยวัดแห่งนี้สร้างขึ้นก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ เวียงจันทน์ วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นวัดประตูเมือง และเป็นท่าเทียบเรือทางเหนือของตัวเมือง เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำโขงนั่นเอง จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2430 วัดแห่งนี้ก็ได้รอดพ้นจากภัยอัคคีในสงครามปราบฮ่อ เมื่อครั้งฮ่อบุกเผาทำลายตัวเมืองมาได้ และยังสามารถอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมแห่งนี้เอาไว้ได้มาจนถึงปัจจุบัน ไฮไลท์ วัดเชียงทอง สิม หรือ อุโบสถของวัดเชียงทองถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิมที่สะท้อนศิลปะล้านช้างออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นได้จาก หลังคาแอ่นโค้ง ลาดต่ำลงมาซ้อนกันอยู่สามชั้น ส่วนกลางของหลังคามีเครื่องยอดสีทองชาวลาวเรียกว่าช่อฟ้า ประกอบด้วย 17 ช่อ แสดงให้เห็นว่าเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์สร้าง เพราะหากเป็นวัดสามัญทั่วไปแล้วจะมีช่อฟ้าเพียง 1-7 ช่อเท่านั้น ส่วนหน้าบัน หรือที่ชาวลาวเรียกว่า โหง่ ประดับตกแต่งด้วยเศียรนาคและลวดลายเกี่ยวกับศาสนาพุทธ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ หอพระม่าน ที่ประดิษฐาน พระม่าน 1 ใน 3 พระพุทธรูปสำคัญของเมืองหลวงพระบางนั่นเอง  นอกจากนี้ก็ยังมี หอพระพุทธไสยาสน์ ผนังด้านนอกทาพื้นเป็นสีชมพูกุหลาบ ตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นลวดลายสวยงาม บอกเล่าถึงนิทานพื้นบ้านที่มีคำสอนเกี่ยวกับธรรมะไว้เตือนสติผู้คน เป็นผลงานที่ทรงคุณค่าไม่แพ้กับจุดอื่นๆ ในวัดเลย ใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวหลวงพระบาง วัดเชียงทอง ถือเป็นสถานที่สำคัญที่ควรมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลสักครั้งในชีวิต

                                     

                     นำท่านเดินทางไป หมู่บ้านซ่างไหเป็นชุมชนที่ขึ้นชื่อเรื่องการกลั่นเหล้าแบบดั้งเดิมของชาวลาว มีรสชาติร้อนแรง สีเหล้าใสบริสุทธิ์ ไร้มลทิน แบบที่เรียกว่า “ใสเป็นตาตั๊กแตน” เพื่อลงเรือเดินทางชมวิวทิวทัศน์ สองฝั่งแม่นํ้าโขง

 

นำท่านชม ถํ้าติ่งซึ่งเป็นถํ้าอยู่บนหน้าผาริมแม่นํ้าโขงมีอยู่ 2 ถํ้า คือ ถํ้าล่างและถํ้าบน ถํ้าติ่งลุ่ม หรือ ถํ้าล่างสูง 60 เมตรจากพื้นนํ้า มีลักษณะเป็นโพรงนํ้าตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวน 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถํ้าติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถํ้าไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถํ้าแต่ไม่มากเท่าถํ้าล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถํ้าติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา

เที่ยง                äรับประทานอาหารกลางวันบนเรือ

                    

 

บ่าย                 นำท่านชม นํ้าตกตาดกวางสีห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม. ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของนํ้าตก ซึ่งเป็นนํ้าตกที่สูงราว 70-80 เมตร ถือเป็นนํ้าตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายนํ้าที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งนํ้าที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของนํ้าตก อิสระให้ท่านดื่มดํ่ากับธรรมชาติ เล่นนํ้า บันทึกภาพอันประทับใจ

                         

นำท่านขึ้นสู่ เขาพระธาตุพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น เชิญนมัสการธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว เมื่อท่านถึงยอดให้ท่านนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท เมื่อปีพ..2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ชมพระอาทิตย์ยามอัสดง วิวทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางยามเย็น

เย็น                 ä รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารพื้นเมืองของหลวงพระบาง

                   นำท่านพักที่ãPULLMAN LUANG PRABANG หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว«««««

วันที่สาม        หลวงพระบางฯ – วัดวิชุนราช – หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง – นั่งรถไฟความเร็วสูง – เมืองวังเวียง – ถ้ำนางฟ้า – บลูลากูน – ล่องเรือแม่น้ำซอง

เช้า               ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม วัดวิชุนราช สร้างในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (.. 2046) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง

                    นำท่านชม หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางหรือ หอคำ เดิมคือพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง จึงเรียกอีกชื่อว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างเมื่อพ.ศ. 2447 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นฝรั่งเศสและลาวในตัวพระราชวัง ต่อมาปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง เมื่อพ.ศ. 2519 โดยใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต พระพุทธรูป และวัตถุโบราณ รวมถึงของขวัญจากต่างประเทศ

นำท่านกราบสักการะ พระบาง ณ หอพระบาง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองหลวงพระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ตามศิลปะแบบเขมรแบบบายน สูงประมาณ 1.14 เมตร หล่อด้วยทองสำริด อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเข้าไว้ในองค์พระ 5 แห่ง คือ พระศอ พระนลาฏ พระชานุ พระอุระ ข้อพระกรทั้งสองข้าง

11.00 น.         ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางออกจาก หลวงพระบางด้วยรถไฟความเร็วสูง สู่เมืองวังเวียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

 

หมายเหตุ : ตารางเวลาเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง EMU อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ลูกค้าเป็นสำคัญ

 

นำท่านเที่ยวชมถ้ำนางฟ้าให้ท่านถ่ายรูปกับ สะพานแขวนสีฟ้าที่พาดข้ามแม่น้ำซอง ชมหินงอกหินย้อยที่ถ้ำนางฟ้า ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์ เจลซึ่งเต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร บริเวณนี้มีกิจกรรมนั่งห่วงยางเข้าถ้ำนอน 

 

นำท่านเดินทางสู่ บลูลากูนแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต เป็นสระแหล่งน้ำสีฟ้าน้ำใสๆ ที่เกิดจากแร่ธาตุธรรมชาติสีสันสวยงาม น้ำใสมากสามารถมองเห็นปลาแหวกว่ายไปมาเป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่สามารถเล่นน้ำได้เหมาะแก่การพักผ่อน

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำซอง 20 นาที ลำละ 2 ท่านเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ของประเทศลาวที่ไหลผ่านเมืองวังเวียง ที่ได้ฉายาว่า “กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว”(รวมค่าบริการล่องเรือ)มีเสน่ห์ไม่มีเหมือนใครกับสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มองไปรอบด้านจะเห็นสีเขียวชอุ่มจากธรรมชาติ ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความเงียบสงบไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่าน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติหากได้มาเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เย็น                  ä รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร

 นำท่านพักที่ãAMARI VANG VIENG หรือเทียบเท่า ระดับ 5 ดาว«««««

     

 

วันที่สี่    วังเวียง – นครหลวงเวียงจันทน์ – พระธาตุหลวง – ชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้ว – ตลาดเช้าช้อปปิ้งมอลล์ – ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี – สะพานมิตรภาพไทย-ลาว – อุดรธานี – กรุงเทพฯ

 

เช้า               ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางกลับสู่ นครหลวงเวียงจันทน์โดยทางรถยนต์ใช้เส้นทางด่วนพิเศษ รัฐบาลจีนสร้างมอบให้ สปป.ลาว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)

เที่ยง                ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร

 

บ่าย                 นำท่านชม อนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นมัสการพระธาตุหลวงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียงจันทร์ ชมศิลปะแบบล้านช้าง เลือกชมของพื้นบ้านแม่ค้าชาวลาวนำมาจำหน่าย

                          

              จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์หอพระแก้วเป็นสถานที่ที่พระแก้วมรกตเคยประดิษฐาน และภายในพิพิธภัณฑ์หอพระแก้วยังได้รวบรวมของเก่ามีค่าต่างๆ นำท่านเดินทางสู่ ตลาดเช้าช้อปปิ้งมอลล์เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยของชาวเวียงจันทน์ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน สินค้าส่วนใหญ่ภายในตลาดจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป, เสื้อผ้า, เครื่องส าอางค์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ จากนั้นอำลานครหลวงเวียงจันทน์เดินทางสู่หน้าด่านมิตรภาพ สปป.ลาว ให้เวลาท่าน ช้อปปิ้งต่อที่ Duty Free หน้าด่านและผ่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้า-ออกเมือง สปป.ลาว

16.00 .          นำท่านเดินทางข้าม สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองไทย จ.หนองคาย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี

19.40 น.           ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน THAI SMILEเที่ยวบินที่ WE 009

20.45 น.         ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

Visitors: 1,207,030