หนาวนี้ที่อุตรดิตถ์ 3วัน 2คืน

                                                                                 

อุตรดิตถ์ เมืองท่องเที่ยวที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่รักและชื่นชอบธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ ความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตสไตล์ล้านนาโบราณ และสำหรับบผู้ที่ชื่นชอบอาหารสไตล์พื้นถิ่น มาฝากท้องไว้ที่อุตรดิตถ์ไม่มีคำว่าผิดหวัง เพราะนอกจากเมนูอาหารจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ในส่วนของรสชาติการรันตีความอร่อยเกือบทุกร้าน มีความครบเครื่องขนาดนี้อย่าปล่อยให้อุตรดิตถ์ต้องกลายเป็นเมืองผ่านเฉกเช่นในอดีตอีกต่อไป

 

วันแรก                                กรุงเทพฯ-บ้านเกิดพระยาพิชัย-วัดบ้านแก่งใต้-ประตูลับแล-ตลาดศรีนพมาศ-น้ำตกแม่พูล-พระบรมธาตุทุ่งยั้ง-วัดพระแท่นศิลาอาส์น-อุตรดิตถ์

05.30 น.         พร้อมกัน จุดนัดพบ สวนลุมพินี ตอนรับท่านโดยเจ้าหน้าที่ฯอย่างสุภาพ  ตรวจเช็คสัมภาระก่อนเดินทาง            

06.00 น.               ออกเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศ นำท่านเดินทางสู่ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์(ระยะทาง 455 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 5 ชั่วโมง) นำท่านชม บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหักบ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก  ภายในมีการจัดแสดงชีวประวัติพระยาพิชัยดาบหักและมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น และมีรูปอนุสาวรีย์พระยาพิชัยและลานสวนกว้างที่ตกแต่งด้วยไม้ประดับที่มีความร่มรื่นสวยงาม และมีผู้คนมากราบไหว้ และขอพร ให้มีโชคลาภ แล้วจะถวายไก่ปูนปั้นเพราะว่า ท่านพ่อนั้นชอบตีไก่ ซึ่ง ในประวัติท่าน ไก่พาลี เป็นไก่ที่ตีเก่ง และสามารถตีชนะไก่ที่ตัวใหญ่กว่าได้ จนมีความเชื่อว่า ถ้าคนมาบนบานศาลกล่าวแล้ว ได้สมประสงค์นิยมนำไก่มาถวาย

                                                                                      

12.00 น.         รับประทานอาหารกลางวัน(1)ที่ ไอดินกลิ่นนา

บ่าย        ออกเดินทางสู่ อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์(ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที) นำท่านชม วัดบ้านแก่งใต้สักการะ หลวงพ่อเพชร  พระประธานภายในอุโบสถ ปางสมาธิที่มีข่าวดังช่วงหนึ่งว่าเป็นพระประธานท้องแตก  มีใบหน้าของพระพุทธรูปศิลาแลงโผล่อยู่กลางท้องของพระประธาน

                                                                  

ออกเดินทางสู่ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์(ระยะทาง 38 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที) นำท่านชม ประตูเมืองลับแล ซุ้มประตูเมือง ซึ่งหมายถึงว่าได้เดินทางเข้าสู่เมืองลับแลอย่างเป็นทางการ ซุ้มประตูเมืองถือว่า เป็นแลนด์มาร์ค ที่ทุกคนต้องแวะ  ข้างซุ้มประตู มีประติมากรรมแม่ม่ายอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลับแล เป็นรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้างมีสามีนั่งคอตกในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้น ชม ตลาดศรีนพมาศ ด้านหน้าตลาดมีความเก๋าและความเก๋ ออกแนวย้อยยุคโบราณสักหน่อย ด้านหน้าเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ คนสำคัญแห่งเมืองลับแล ชม ภาพเพนท์กำแพงที่วาดบนตัวตึกหน้าตลาดเป็นภาพวาดกำแพงที่มีความชิคสีออกแนวพาสเทล ที่เล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตคนผู้คนในอดีต ชม น้ำตกแม่พูล น้ำตกที่เกิดจากการตกแต่งธารน้ำโดยการเทปูนให้น้ำไหลลดหลั่นจากบนเขาสูงลงมา ดูคล้ายน้ำตกธรรมชาติ สูงหลายชั้น สภาพโดยรอบนั้นมีความร่มรื่นเต็มไปด้วยป่าไม้หลากหลายสายพันธุ์ มีธรรมชาติแวดล้อมที่สวยงาม ชม วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ 5 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญประจำเมืองทุ่งยั้ง ซึ่งเมืองทุ่งยั้งในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยติดต่อกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญ คือ เจดีย์พระบรมธาตุ ชาวบ้านนิยมเรียกว่า พระบรมธาตุทุ่งยั้ง เป็นเจดีย์เก่าแก่แบบลังกาทรงกลมฐาน วัดพระแท่นศิลาอาสน์  ตั้งอยู่ที่ ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล  ประดิษฐานพระแท่นศิลาอาสน์ ปูชนียวัตถุสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์  มีความเชื่อว่าการได้มาสักการะบูชาพระแท่นศิลาอาสน์ จะได้รับอานิสงส์สูงสุด 

                                                               

                                                      

18.00 น.       รับประทานอาหารค่ำ(2)ที่ ข้าวพันผักอินดี้  มาเมืองลับแลแล้วจะพลาดข้าวพันพักไม่ได้ สำหรับ

       นำท่านเข้าที่พัก โรงแรมฟาย์เดย หรือ เทียบเท่า (ห้องปรับอากาศ 2-3 ท่าน)

วันที่สอง(อาทิตย์ 24/10/64)           อุตรดิตถ์-ภูแลลาว-ภูสะนาว-ต้นสักใหญ่ที่สุดในโลก-เขื่อนสิริกิตถ์-สะพานแขวนเฉลิมพระ

                                                       เกียรติ-แม่น้ำสองสี-จุดชมวิวทะเลสาบสุริยันจันทรา-อุโมงค์ไม้ไผ่-แก่งวังวัว-อุตรดิตถ์                                   

04.30 น.         ออกเดินทางสู่ อ.บ้านโคก(ระยะทาง 164 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) นำท่านชม ภูแลลาว ชมทะเลหมอกยามเช้า และชมวิวสองแผ่นดิน ที่สามารถมองลงไปเห็นบ้านเรือนของพี่น้องชาวลาว แขวงไชยบุรี

08.00 น.         รับประทานอาหารเช้า(3)ที่ ครัวคุณไก่

นำท่านเดินทางสู่  ภูสะนาว ภูเขาสูงที่อยู่ติดกับประเทศลาว เดินบน สกายวอล์คของอุตรดิตถ์ ที่เป็นจุดชมวิวและทะเลหมอก ที่สวยงาม เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของ อ.บ้านโคก(สุดชายแดนอุตรดิตถ์)

                                                                                    

ออกเดินทางสู่ อ.น้ำปาด(ระยะทาง 68 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1.30 ชั่วโมง ผ่าน อ.ฟากท่า) นำท่านชม

ต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีอายุประมาณ 1,000 ปี แหล่งไม้สักตามธรรมชาติแหล่งสุดท้ายของจังหวัดอุตรดิตถ์

12.00 น.       รับประทานอาหารกลางวัน(4)ที่ สีไวปลาเผา

ออกเดินทางสู่ อ.ท่าปลา(ระยะทาง 36 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 45 นาที) นำท่านชม เขื่อนสิริกิตถ์(เขื่อนท่าปลา) จัดเป็นเขื่อนดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งกั้นแม่น้ำน่านที่ไหลลงมาจากอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน 

ชม สะพานแม่น้ำปาด(จุดชมแม่น้ำ 2 สี คือ แม่น้ำปาด(สีขุ่น) และ แม่น้ำน่าน(สีใส) มาบรรจบกัน) ชม สะพานเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ สะพานแขวนที่เบื้องล่างคือ วังมัจฉา และที่เป็นจุดสุดฮิตในเขื่อนสิริกิติ์ก็คือ บริเวณสันเขื่อน เป็นจุดชมวิวที่จะมองเห็นทั้งอ่างเก็บน้ำและป้ายชื่อเขื่อนขนาดใหญ่ นำท่านชม อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน จุดสูงที่สุดของอุทยานฯ นั่นคือ ยอดเขาภูพญาพ่อ ที่มีความสูงถึง 1,350 เมตร ใช้เป็นจุดแบ่งเขตของแพร่กับอุตรดิตถ์ค่ะ โดยบนนี้จะมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ชม จุดชมวิวทิวทัศน์ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา ที่เป็นอ่างเก็บน้ำถูกล้อมด้วยทิวเขา และในตอนเย็นก็ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ ชม อุโมงค์ไม้ไผ่ ซุ้มไม้ไผ่สูงยาวจะเกิดเป็นโค้งสวยงาม จุดเช็คอินแห่งให่ของอุตรดิตถ์ ชม แก่งวังวัว ลำธารและสายน้ำที่ไหลผ่านเกาะแก่งจนเกิดเป็นวังต่างๆ สวยงาม จนได้เวลาเดินทางกลับ อุตรดิตถ์(ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง) ชมจวนผู้ว่าเก่า ลักษณะเป็นอาคารไม้สองชั้น ใต้ถุนยกสูง รูปทรงปั้นหยา ทาสีเขียวอ่อน หลังคามุงกระเบื้องลูกฟูก มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมนะคะ จะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 22 สิงหาคม 61 ปีนี้ ถ้ามาเที่ยวชมตอนเย็น ที่จวนผู้ว่า เขาจะเปิดแสงไฟสีส้มสลัวๆ สวยงามคนละฟิลกับตอนกลางวัน สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความคลาสิคที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคสมัย

                                               

18.00 น.       รับประทานอาหารค่ำอิสระ ที่ ตลาดโต้รุ่งอุตรดิตถ์

                      นำท่านเข้าที่พัก โรงแรมฟาย์เดย หรือ เทียบเท่า (ห้องปรับอากาศ 2-3 ท่าน)

วันที่สาม(จันทร์ 26/10/64)             อุตรดิตถ์-อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก-ศูนย์บันดาลไทย-ขนมเทียนเสวย-  

                                                       อ.ทองแสงขัน-ไร่องุ่นคานาอัน-บ้านบ่อเหล็กน้ำพี้-มองดูวัวคาเฟ่-กรุงเทพฯ

07.00 น.         รับประทานอาหารเช้า(5)ที่ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเกียรติในเรื่องความองอาจ กล้าหาญ รักชาติ และเสียสละของท่าน ชม ศูนย์บันดาลไทย แห่งนี้มีอายุกว่า 100 ปี เป็นสถานที่รวบรวมผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย ของดี ของเด่น ในแต่ละชุมชน โดยเฉพาะผ้าทอไทยโบราณ ผ้าทอพื้นเมือง และยังมีเครื่องถ้วยเบญจรงค์ นำมาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้คนในชุมชน แวะชิม ขนมเทียนเสวย ของดี ขึ้นชื่อ และเป็นเจ้าแรกในจังหวัดอุตรดิตถ์ ขนมเทียนที่นี่แปลกกว่าขนมเทียนทั่วไป โดยการนำเนื้อแป้งไปคุกเคล้ากับงาขาว ห่อด้วยใบตอง แล้วนำไปอบควันเทียน จะได้กลิ่นความหอมของควันเทียนและใบตอง

                                                                

ออกเดินทางสู่ อ.ทองแสงขัน(ระยะทาง 32 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที) เพื่อนำท่านชม ไร่องุ่นคานาอัน  เป็นไร่องุ่นที่บรรยากาศดีบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกมีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย  ไฮไลท์ คือ สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นั่นคือ อาคารคานาอัน  อาคารสไตล์ทัศคานีของอิตาลี สีสันสดใส สวยงามและโดดเด่น ภายในอาคารจะมีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปหลายมุม มีบันไดวนขึ้นไปดาดฟ้าเพื่อที่จะขึ้นไปชมบรรยากาศและทัศนียภาพโดยรอบพื้นที่ได้ ชม บ้านบ่อเหล็กน้ำพี้ เป็นแหล่งสินแร่เหล็กตามธรรมชาติโดยเป็นบ่อเหล็กกล้ามีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ ดังปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ถึงความสำคัญของเหล็กน้ำพี้ ในปัจจุบันชาวบ้านน้ำพี้มีการขุดแร่เหล็กน้ำพี้มาทำวัตถุมงคล ชม มองดูวัวคาเฟ่ คาเฟ่แห่งใหม่ที่เป็นสไตล์บ้านทุ่ง ชม ภายในอาคารมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม รับประทานอาหารกลางวันอิสระที่ มองดูวัวคาเฟ่ แล้วเดินทางกลับ กรุงเทพฯ(ระยะทาง 470 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 6 ชั่วโมง)

                                                                         

บ่าย                 เดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร อิสระพักผ่อนบนรถ  แวะซื้อของฝากและรับประทานอาหารค่ำอิสระ

20.00 น.         เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ


หมายเหตุ      รายการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม แต่คำนึงถึงลูกค้าเป็นหลัก

กำหนดเดินทางวันที่   04 -0 6 ,10 - 12 , 17 - 19,  24 – 26 ธ.ค. 2564  , 30 ธ.ค. 2564 -02 ม.ค. 2565

  

ท่านละ 3,999 บาท  พักเดี่ยวจ่ายเพิ่ม 1,800 บาท/ท่าน

เงื่อนไขการจองทัวร์

§  งวดที่ 1 กรุณาวางเงินมัดจำในการสำรองที่นั่ง ท่านละ  2,000 บาท  การยืนยันการจองการจองจะสมบูรณ์  ก็ต่อเมื่อ ทางบริษัทได้รับเงินค่ามัดจำแล้วเท่านั้น

(หลังจากชำระมัดจำแล้ว  กรุณาส่งหลักฐานการโอนเงิน ชื่อ-สกุลผู้เดินทาง เบอร์โทร โปรดเลือกที่นั่ง ตามชาร์ทรถบริษัท   และแจ้งอาหารที่แพ้  ให้แก่ทางบริษัท)

§  งวดที่ 2 ชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทั้งหมด 14 วันก่อนการเดินทาง

อัตราค่าบริการรวม

ü รถตู้ปรับอากาศ    

ü ค่าโรงแรมที่พัก ตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า 2-3 ท่าน

ü ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามรายการระบุ

ü ค่าอาหารตามรายการที่ระบุ (อาหารจัดตามเมนูทัวร์ หากมี อิสลาม มังสะวิรัติ เด็ก หรือที่รับประทานนอกเหนือจากเมนูที่ทัวร์จัดให้ ลูกค้าจ่ายเพิ่มเอง เพราะรายการอาหารคิดเป็นราคาต่อโต๊ะ)

ü ค่ามัคคุเทศก์ และ เจ้าหน้าที่ทัวร์

ü ค่าประกันภัยการเดินทาง 1,000,000 บาท และอุบัติเหตุ 500,000 บาท ตามเงื่อนไขกรมธรรณ์

อัตราค่าบริการไม่รวม

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการและค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ

ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กรณีต้องการใบเสร็จ

ค่าทิปมัคคุเทศก์ และ พนักงานขับรถ 400 บาท/ลูกค้า 1ท่าน

กรณียกเลิก

·      ยกเลิกหลังจากวางเงินมัดจำ บริษัทฯจะคิดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ณ วันนั้น ที่ไม่สามารถ คืนเงินได้ (ตัวอย่างเช่น  ค่ามัดจำห้องพัก และ ค่ารถบัส เป็นต้น)

·      ยกเลิกหลังจากจ่ายเงินเต็มจำนวน บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทั้งหมดในทุกกรณี

·      กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง  ที่ต้องระบุว่า  ห้ามเดินทาง หรือ  ไม่สมควรเดินทาง

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องโรงแรมที่พัก

§  เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว(Single), ห้องคู่(Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน(Triple) ซึ่งห้องพักอาจจะไม่ติดกันและบางโรงแรมอาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน แต่อาจจะได้เป็น 1 เตียงใหญ่(นอน2ท่าน) กับ 1 เตียงพับเสริม(นอน1ท่าน) ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละโรงแรมนั้นๆ และห้องแต่ละห้องอาจมีลักษณะแตกต่างกันด้วย

§  บางโรงแรม อาจไม่มีเครื่องใช้ไว้บริการ อาทิเช่น  แปรงสีฟัน ยาสีฟัน หวี โลชั่นทาผิว รองเท้าเดินในห้อง เป็นต้น  

การเดินทางเป็นครอบครัว

หากท่านเดินทางเป็นครอบครัวใหญ่ หรือเดินทางพร้อมสมาชิกในครอบครัวที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ(Wheelchair), เด็ก และผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว ไม่สะดวกในการเดินท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกันท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง   เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ  ทางทีมงานทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

หมายเหตุ

§  บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้ และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของทีมงานทัวร์ และเหตุสุดวิสัยบางประการ เช่น การนัดหยุดงาน ภัยธรรมชาติ การจลาจล ต่างๆ

§  เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

§  เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆ

§  กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ ตลอดจนความปลอดภัยของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ 

 

 

Visitors: 1,207,181