อียิปต์ ไคโร กีซา อเล็กซานเดรีย 6D3N

Day1      สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอาบูดาบี  

 

16.30     นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบิน Etihad Airways (EY) โดยมีป้ายต้อนรับ     เลทส์โกกรุ๊ป และมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกพร้อมแนะนำข้อมูลในการเดินทางให้แก่ท่าน

19.10       นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY407 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 55 นาที

23.15       เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อรอต่อเครื่อง

 

Day2     สนามบินอาบูดาบี – สนามบินไคโร – เมืองเก่าไคโร – โบถส์แขวน – โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส – สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัดอาลี – ตลาดข่านเอลคาลิลิ


02.30       นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY657 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 10 นาที

04.40      เดินทางถึง สนามบินไคโร ประเทศอียิปต์หลังจากนั้นนำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)

พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยว กรุงไคโร (Cairo) หรือชื่อเรียกในภาษาอาหรับคือ “กอฮิเราะฮ์” หมายความว่า ชัยชนะ โดยระหว่างการก่อนสร้างเมืองได้มีการมองเห็นดาวอังคาร ซึ่งดาวอังคารเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการทำลายล้าง หรืออีกนัยหนึ่งคือไคโรเป็นเมืองที่รบชนะทุกกองทัพที่มาโจมตีตั้งแต่กองทัพมองโกล, กองทัพครูเสด หรือแม้แต่กองทัพของออตโตมัน ว่ากันว่าไคโรเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมและโบราณคดีอันลี้ลับและน่าพิศวง ทั้งยังมีแม่น้ำไนล์ที่ยาวที่สุดในโลกไหลผ่าน ซึ่งในปัจจุบันไคโรได้กลายเป็นเมืองหลวงของอียิปต์ เป็นศูนย์กลางของศาสนาอิสลาม ทั้งยังมีความสำคัญด้านการเมืองและวัฒนธรรมในดินแดนตะวันออก

เช้า         บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าชม โบสถ์แขวน (THE HANGING CHURCH)ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าไคโรสร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เป็นโบถส์นิกายคอปติก     ออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ โบสถ์แขวนยังคงเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญที่สุดของโบสถ์คริสต์คอปติก ในปี ค.ศ. 1047 สถานที่แห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระสันตะปาปาคอปติกออร์โธดอกซ์ หลังจากการพิชิตอียิปต์ของชาวมุสลิมทำให้เมืองหลวงของอียิปต์ถูกย้ายจากอเล็กซานเดรียไปยังกรุงไคโร ตัวสถาปัตยกรรมออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นด้วยตัวอาคารมีหอระฆังคู่แฝดตั้งตระหง่าน ด้านบนประดับไม้กางเขน หลังคาไม้รูปทรงเป็นดั่งเรือโนอาห์ซึ่งรองรับด้วยเสาหินอ่อน 13 ต้น เพื่อเป็นตัวแทนของพระเยซูและลูกศิษย์ทั้ง 12 คนของเขา ประตูหน้าต่างไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจงสวยงาม ด้านในแต่ละห้องตกแต่งด้วยลวดลายอันวิจิตรทำจากไม้ดำเนื้อแข็ง ไม้กฤษณา ไม้มะเกลือ และงาช้าง เปรียบเสมือนสีดำคู่กับสีขาว ปัจจุบันสถานศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้อุทิศให้กับนักบุญจอร์จ พระแม่มารี และนักบุญ

นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์เซอร์เจียส (ABU SERGA)อยู่ใจกลางเมืองเก่าไคโร เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในกำแพงเสาหินดั่งเดิมในศตวรรษที่ 3 - 4 อยู่ต่ำจากพื้นปัจจุบันลงไป 3 ชั้น ซึ่งถูกกล่าวไว้ในพระคำภีร์ว่า ระหว่างที่พระเยซูอยู่ในวัยทารก เป็นช่วงที่กษัตริย์สั่งฆ่าทารกชายเกิดใหม่ทุกคน ครอบครัวจึงได้นำพระองค์เดินทางมาหลบหนีภัยอยู่ในโบสถ์เป็นเวลากว่า 4 ปี

เที่ยง       บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านถ่ายรูป สุเหร่าแห่งโมฮัมหมัดอาลี (THE MOHAMMAD ALI MOSQUE) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1830 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1857 เป็นสุเหร่าที่ใหญ่และสูงที่สุดในกรุงไคโร ตัวอาคารสร้างจากหินอลาบาสเตอร์ (Alabaster)  ตรงกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีโดมขนาดใหญ่สูง 52 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 เมตร ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้างดงามตามแบบศิลปะอิสลาม ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีกในแบบอย่างออตโตมัน หรือตุรกีในปัจจุบัน ภายในมีนาฬิกาบนลานในสุเหร่าซึ่งเป็นของขวัญในการแลกเปลี่ยนกับอนุสาวรีย์ปลายแหลมโอบิลิสก์ของรามเซส ที่2 เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างอียิปต์และฝรั่งเศส จากนั้นนำท่านไปช้อปปิ้งสิ้นค้าพื้นเมืองที่ ตลาดข่านเอลคาล (KHAN EL KHALILI)ตลาดขายของพื้นเมืองและสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร ท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่างๆ เครื่องทองรูปพรรณ และเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ

ค่ำ           บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ MIX GRILLED

ที่พัก        PYRAMIDS PARK RESORT HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

 

Day3     เมืองกีซา – พีรามิดแดง – เมืองเมมฟิส – พิพิธภัณฑ์รามเซสที่สองแห่งเมืองเมมฟิส – มหาพีรามิดแห่งกีซา – มหาสฟิงซ์              – ศูนย์กลางการทำกระดาษปาปีรุส – โรงงานผลิตหัวน้ำหอม – ล่องเรือแม่น้ำไนล์ – โชว์ระบำหน้าท้อง

 

เช้า          บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกีซา (Giza) ภาษาอาหรับคือ “อัลญีซะฮ์” ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงไคโร ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอียิปต์รองจากกรุงไคโร เมืองกีซาเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงระดับโลกเพราะเป็นที่ตั้งของ 3 มหาพีระมิดแห่งกีซาที่ยังสมบูรณ์เรียงรายกันอย่างสมบูรณ์ตั้งอยู่บนทะเลทรายตะหง่านแสดงถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมืองกีซาเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจึงทำให้ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก หรือแม้แต่ร้านค้าท้องถิ่น ทำให้เมืองกีซาเป็นเมืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอียิปต์ 

นำท่านเดินทางสู่ พีระมิดแดง (The Red Pyramid)ตั้งอยู่ในเมืองดาห์ชูร์ ไม่ไกลจากเมืองโบราณซัคคารา สร้างขึ้นมาเพื่อสำหรับฟาโหร์สเนฟรู บิดาของคูฟูซึ่งเป็นผู้สร้างมหาพีระมิดแห่งกีซา เชื่อกันว่าพีระมิดแดงเป็นพีระมิดที่สมบูรณ์ทั้ง 4 ด้าน โดยมีฐานที่ใหญ่เป็นอันดับสองของพีระมิดของอารยธรรมอียิปต์ทั้งหมด

              นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมมฟิส (Memphis)ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองที่ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บนและอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยกษัตริย์เมนา ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 นำท่านชม พิพิธภัณฑ์รามเซสที่สองแห่งเมืองเมมฟิส สถานที่เก็บรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์รามเซสที่ 2 ที่มีฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยมและงดงามมาก ระหว่างทางท่านยังจะได้เห็นต้นอินทผาลัมขึ้นสวยงามเป็นทิวแถวสวยงามอีกด้วย

             จากนั้นนำท่านสู่ เมืองโบราณซัคคารา(Sakkara)นำท่านชม พีระมิดขั้นบันได อันเป็นพีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของกษัตริย์ซอเซอร์ และเป็นต้นแบบของพีระมิดในยุคต่อๆมา

เที่ยง        บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

              นำท่านเดินทางสู่ มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza)ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ครอบคลุมพื้นที่ 2,000 ตร.ม. บนที่ราบสูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของมหาพีระมิด 3 องค์ ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ฝังพระศพของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ปี สร้างจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก แต่ละก้อนมีน้ำหนักกว่า 2 ตัน นำมาวางชิดติดกันเป็นรูปทรางกรวยแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน พีระมิดแห่งนี้ประกอบไปด้วย

1)      พีระมิดคีออพส์ (Cheops)หรือ พีระมิดคูฟู (Khufu)นิยมเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า มหาพีระมิดแห่งกีซา (The Great Pyramid of Giza) เป็นพีระมิดที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุด สร้างในสมัยของฟาโรห์คูฟู แห่งราชวงศ์ ที่ 4 มีขนาดพื้นที่ 53 ตร.ม. สูง 146 เมตร สร้างด้วยหินแกรนิต 2.3 ล้านแท่ง น้ำหนักกว่ากว่า 60 ตัน ภายในมีห้องโถงหลายห้อง อาทิเช่น ห้องโถงใหญ่ ห้องโถงพระราชา และห้องโถงพระราชินี เป็นต้น สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาศพ เพื่อรอการกลับมาคืนชีพตามความเชื่อของชาวอียิปต์ในยุคนั้น

2)      พีระมิดเคเฟรน (Chefren)สร้างโดยฟาโรห์คาเฟรซึ่งเป็นพระโอรสของฟาโรห์คูฟู เป็นพีระมิดหนึ่งในสามพีระมิดแห่งกีซา ซึ่งตั้งอย่ตรงกลางถัดจากพีระมิดคูฟู สร้างในปี 2465 ก่อน ค.ศ. สูง 136 เมตร สร้างบนเนินดินขนาดใหญ่ ส่วนยอดของพีระมิดแห่งนี้มีชั้นหินปูนขัดมันที่ชาวอียิปต์โบราณก่อสร้างปิดเป็นผิวชั้นนอกที่ยังหลงเหลืออยู่ มีห้องโถงกว้าง 2 ห้อง แต่ภายในถูกบุกรุก ทำลายเสียหายไปมาก นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงกับพีระมิดเคเฟรน ยังมีมหาสฟิงซ์ที่เป็นรูปแกะสลักจากหินก้อนเดียวที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกและยังเป็นอนุสาวรีย์แบบแกะสลักลอยตัวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย

 

3)      พีระมิดมิเซรินุส (Mycerinus)หรือพีระมิดเมนคูเร (Menkaure) สร้างโดยฟาโรห์เมนคูเรโอรสของฟาโรห์เคเฟรน สร้างในปี 2420 ก่อน ค.ศ. มีขนาดเล็กที่สุด สูง 66.45 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 62.18 เมตร กว้าง 108 เมตร มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาพีระมิดทั้ง 3 แห่งของกีซา ทางทิศใต้ของพีระมิดเมนคูเร ยังมีการสร้างพีระมิดราชินีทั้ง 3 (The Three Queen's Pyramids) เพื่อใช้เป็นที่เก็บพระศพของราชินี 3 องค์ในสมัยของฟาโรห์เมนคูเร  

ให้ท่านได้ถ่ายภาพ มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) ตั้งอยู่ด้านหน้าของพีระมิดเคเฟรน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่พีระมิดแห่งกีซาและยังถือเป็นสฟิงซ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติเพียงก้อนเดียว มีส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์และลำตัวเป็นสิงโต มีหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของกษัตริย์ และมีพลังพิเศษเพื่อปกป้องพระศพและทรัพย์สมบัติที่อยู่ภายในพีระมิด

              แนะนำโปรแกรมเสริมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ (Optional Tour)

1.      อิสระให้ท่านขี่อูฐกลางทะเลทราย พร้อมชมความงดงามของพีระมิด ทั้ง 3 แห่งที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง (1 ท่านต่ออูฐ 1 ตัว ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) (ค่าใช้จ่ายในการขี่อูฐ ท่านละ 20 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) โปรดทราบประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรมพิเศษ ดังนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน

2.     อิสระให้ท่านเข้าชมด้านในพีระมิด ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ฝังพระศพขององค์ฟาโรห์ ผู้สร้างพีระมิดนั้น ภายในจะมีเป็นห้องโถง ทางเดินที่สามารถเข้าไปชมได้ (ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมพีระมิดคูฟู ท่านละ 30 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD)/ ค่าใช้จ่ายในการเข้าชมพีระมิดเคเฟรน และค่าใช้จ่ายในการเข้าชมพีระมิดมิเซรินุส หรือพีระมิดเมนคูเร (Menkaure) ท่านละ 10 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (USD) ทั้งนี้ในแต่ละวัน การเข้าชมปิรามิดจะจำกัดผู้เข้าชมได้ไม่เกินวันละ 300 คนเท่านั้น กรณีสนใจเข้าชมกรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า

หมายเหตุ: ในการเข้าชมพีระมิดเป็นที่แคบและอากาศเบาบาง และต้องทำการปีนบันไดเพื่อเข้าไปชมด้านใน

              จากนั้นนำท่านแวะชม ศูนย์กลางการทำกระดาษปาปีรุส (Papyrusand Cotton Shops)ซึ่งเป็นกระดาษชนิดแรกของโลกทำจาก ต้นกก (Papyrus) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์สำคัญต่างๆ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า มีการใช้กระดาษที่ทำจากปาปิรุสมาตั้งแต่ปฐมราชวงศ์ของอียิปต์ หรือราวๆ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นนำท่านแวะชม โรงงานผลิตหัวน้ำหอมซึ่งกล่าวกันว่าการทำน้ำหอมนี้มีสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระนางคลีโอพัตรา และที่นี้ยังเป็นศูนย์กลางแหล่งผลิตหัวน้ำหอมขนาดใหญ่ ให้กับน้ำหอมแบรนด์เนมดังๆ หลายแบรนด์อีกด้วย

ค่ำ           บริการอาหารค่ำ พิเศษ ล่องเรือแม่น้ำไนล์ พร้อมรับประทานบุฟเฟต์

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำไนล์ (Nile Cruise)ให้ท่านได้ดื่มด่ำบรรยากาศสองฝั่งของแม่น้ำไนล์ (Nile River) ที่ได้ชื่อว่าเป็นสายน้ำแห่งอารยธรรมที่ยาวที่สุดในโลกเป็นทั้งอู่อารยธรรมและเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา ปัจจุบันยังได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของทวีปแอฟริกา มีความยาวมากกว่า 6695 กม. ไหลผ่าน 10 ประเทศ ประเทศยูกันดา, ประเทศเอธิโอเปีย, ประเทศซูดาน, ประเทศซูดานใต้, ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, ประเทศเคนยา, ประเทศแทนซาเนีย, ประเทศรวันดา, ประเทศบุรุนดีและสิ้นสุดในประเทศอียิปต์ ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมชมการแสดงพื้นเมือง โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) เป็นการโชว์เต้นรำที่เก่าแก่ในแถบอารยธรรมในยุคโบราณ ซึ่งมีมาประมาณ 6,000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องนี้ไว้ให้มีมาจนถึงปัจจุบัน การโชว์ระบำหน้าท้องนี้ได้มีมาอย่างแพร่หลายและมีการพัฒนาซึ่งเป็นศิลปะที่โดดเด่นสวยงาม

ที่พัก      PYRAMIDS PARK RESORT HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

 

 

 

Day4   เมืองอเล็กซานเดรีย – หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย – เสาปอมเปย์ – ป้อมปราการซิทาเดล – ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย

 

เช้า          บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

              นำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากกรุงไคโร ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของอียิปต์ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้กับปากแม่น้ำไนล์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีชื่อว่า ราคอนดาห์ เมื่อ 332 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชเดินทางมาพบ จึงโปรดให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อสร้างเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของ พระนางคลี โอพัตราอีกด้วย

              นำท่านเข้าชม หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs) เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง เป็นสุสานของชาวโรมันในอดีต มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นที่ 1 ใช้สำหรับการลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 ใช้เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 ใช้เป็นสถานที่รวมญาติและเพื่อรำลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่

              นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ เสาปอมเปย์ (Pompey’s Pillar) สิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ที่แสดงถึงการฉลองชัยชนะของชาวโรมัน เป็นเสาหินแกรนิตสีแดงสูง 27 เมตร หัวเสาประดับด้วยลวดลายคอรินเทรียน ซึ่งถือว่าเป็นเสาหินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมา เชื่อกันว่าเสาแห่งนี้ได้ชื่อมาจาก ปอมเปย์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของจูเลียส ซีซ่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน ภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ก็ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรีย ก่อนถูกชาวอิยิปต์ฆ่าตาย จูเลียสซีซาร์จึงได้ทำพิธีเผาศีรษะของปอมเปย์ที่เสาแห่งนี้ ปัจจุบันนี้เหลือเพียงเสาแบบกรีกตั้งอยู่อย่างโดดเด่นกับสฟิงซ์อีกสองตัว

เที่ยง        บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พิเศษ อาหารทะเล

              นำท่านถ่ายรูปกับ ป้อมปราการซิทาเดล (Citadel) ป้อมปราการโบราณที่ยังมีความสวยงาม ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ป้อมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในคริสศตรรษที่ 15 ในอดีตใช้เป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟารอส ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐาน และได้มีรับการทะนุบำรุงต่อเติมจากสุลต่านเกย์ตเบย์

นำท่านถ่ายรูปกับ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) สถานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอียิปต์ ที่มีนักโบราณคดีจากทั่วโลกมาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ห้องสมุดนี้เคยถูกเผาในคริสต์ศตวรรษที่สี่ โดยใช้เวลาการสร้างใหม่ 12 ปี ด้วยเงินทุน 220 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงไคโร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)

ค่ำ           บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

 

ที่พัก        PYRAMIDS PARK RESORT HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

 

Day5     พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอารยธรรมอียิปต์ – ห้องมัมมี่ สนามบินไคโร – สนามบินอาบูดาบี

 

เช้า          บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์อารยธรรมอียิปต์แห่งชาติ (National Museum of Egyptian Civilization : NMEC)ตั้งอยู่ในตัวเมืองกรุงไคโรเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของอียิปต์ เปิดให้เข้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2564ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของมัมมี่พระศพฟาโรห์และพระราชินีแห่งอียิปต์ ภายหลังการเคลื่อนย้ายมัมมี่มาจากพิพิธภัณฑ์เดิมในขบวนพาเหรด Pharoahs' Golden Parade เมื่อเดือน เม.ย. 2564 ภายในพิพิธภัณฑ์มีการแสดงโบราณวัตถุที่จัดแสดงในโถงนิทรรศการหลักมีกว่า 1,500 ชิ้น จัดแสดงเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม, แบบจำลองเรือโบราณ นอกจากรูปปั้นและสิ่งของฟาโรห์แล้วห้องโถงใหญ่ยังมีโครงกระดูกมนุษย์ที่มีอายุย้อนกลับไป 35,000 ปี แสดงให้เห็นถึงชาวอียิปต์โบราณมีความก้าวหน้าในด้านการแพทย์ นำท่านเข้าชม ห้องมัมมี่ (The Mummies Room) (รวมค่าเข้าแล้ว) ห้องโถงของมัมมี่พระศพฟาโรห์และพระราชินีแห่งอียิปต์ แบ่งเป็นห้องโถงพระศพของฟาโรห์ 18 พระองค์ และราชินีอีก 4 พระองค์ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 17 ถึงราชวงศ์ที่ 20 ถือเป็นอัญมณีมงกุฎของพิพิธภัณฑ์ ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อแสดงมัมมี่ของกษัตริย์และราชินีโบราณแห่งอียิปต์ การออกแบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนได้เดินเล่นไปตามหุบเขาแห่งราชา

              นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

 

13.40       นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY654 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 05 นาที

18.45       เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อรอต่อเครื่อง

22.50       นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสายการบิน Etihad Airways เที่ยวบินที่ EY402 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง 05 นาที

 

Day6     สนามบินสุวรรณภูมิ

 

 

07.55       เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

สำคัญโปรดอ่าน

       1.       กรุณาทำการจองล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 30 วัน พร้อมชำระเงินมัดจำ ท่านละ 21,000 บาท/ท่าน และชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ก่อนการเดินทาง กรณีวันเดินทางน้อยกว่า 21 วัน ต้องชำระค่าทัวร์เต็มจำนวน 100% เท่านั้น

       2.       อัตราค่าบริการนี้ จำเป็นต้องมีผู้เดินทาง จำนวน 10 ท่าน ขึ้นไป ในแต่ละคณะ กรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึงตามจำนวนที่กำหนด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ (ปรับราคาเพิ่มขึ้น เพื่อให้คณะได้ออกเดินทาง ตามความต้องการ)

       3.       ท่านที่ต้องออกบัตรโดยสารภายในประเทศ (ตั๋วเครื่องบิน, รถทัวร์, รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกบัตรโดยสาร เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟลท์ หรือ เวลาบิน โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และการแนะนำจากเจ้าหน้าที่เป็นเพียงการแนะนำเท่านั้น

       4.       นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโปรแกรมข้างต้นควรทำการจอง และ ส่งเอกสารเพื่อขอวีซ่าหมู่คณะก่อนเดินทางมากกว่า 30 วัน วันหยุดนักขัตฤกษ์ 45 วัน หากระยะเวลาน้อยกว่าที่ระบุไว้ข้างต้น ขอสงวนสิทธิ์ในการขอวีซ่าประเภทอื่นซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน

       5.       กรณีท่านไม่สามารถยื่นวีซ่าพร้อมคณะได้ตามที่กำหนดการหลังจากที่คณะคอนเฟิร์มออกเดินทาง จำเป็นต้องเสียค่าส่วนต่าง กรณียื่นวีซ่าเดี่ยว โดยยื่นตรงกับสถานทูต 2,500 บาท/ท่าน ไม่รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (ไม่มียื่นวีซ่าประเภทด่วน)

       6.       ระหว่างท่องเที่ยวหากนักท่องเที่ยวได้รับการตรวจยืนยันว่ามีเชื้อโควิด ทางโรงแรมอาจมีค่าทำความสะอาดห้องพักเพิ่มเติม (ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์)

       7.       ในกรณีที่ภาครัฐทั้งไทย และประเทศปลายทางมีข้อกำหนดในการกักตัว หรือ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกประเภท ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยตัวท่านเอง (ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์)

       8.       อาหารบนเครื่องเป็นไปตามนโยบายของสายการบิน

Visitors: 1,206,414