เลทส์โก อินเดีย ชัยปุระ อัครา เดลี 5D3N

 

 

Day1   สนามบินสุวรรณภูมิ

 

23.30  นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน

 

Day2   สนามบินเดลี – เมืองชัยปุระ – ฮาวา มาฮาล – ซิตี้พาเลส – วัดพระพิฆเนศ โมติดุงกิ – อัลเบิร์ตฮอลล์

 

03.45   ออกเดินทางสู่ สนามบินเดลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่SG741

06.20   เดินทางถึง สนามบินเดลี ประเทศอินเดีย ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบของสนามบิน นำท่านเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ (Jaipur) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง) หรือ “นครแห่งชัยชนะ” ได้รับการกล่าวขนานนามว่า “นครสีชมพู” โดยมีที่มาอันเกิดมาจากเมื่อในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเดิมของบ้านเรือนตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงไมตรีจิตในการต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) มงกุฏราชกุมารของประเทศอังกฤษ ต่อมาภายหลังในยุคของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward VII) แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลอินเดียได้มีการออกกฏหมายควบคุมสิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้มีการทาสีชมพูทั้งหมด เพราะเหตุนี้จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในเมืองต่างๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนยังเมืองนี้  

             

 

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 

นำทุกท่านไปยัง ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal) หรือรู้จักกันในนาม “พระราชวังแห่งสายลม” ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่ง ของประเทศอินเดียที่จักต้องมาเยือน พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองชัยปุระ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) และได้รับการออกแบบขึ้นมาโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) ซึ่งสถาปัตยกรรมของฮาวา มาฮาล ถอดแบบมาจากรูปทรงมงกุฏของพระนารายณ์ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ที่สร้างมาจากหินทรายสีแดงสด อีกทั้งยังมีการฉลุหินทำให้เป็นช่องหน้าต่างมีลวดลายเล็กๆละเอียดยิบ จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้มีช่องหน้าต่างถึง 953 บาน แต่หน้าต่างของพระราชวังจะถูกสร้างปิดไว้ด้วยหินทรายฉลุ ทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองผ่านข้างในมาด้านนอกได้ แต่คนจากทางด้านนอกจะไม่สามารถมองผ่านเข้ามาด้านในได้ และที่สำคัญด้วยลักษณะการสร้างแบบนี้ทำให้เกิดช่องแสงและช่องลม ซึ่งเป็นที่มาของ “พระราชวังแห่งสายลม”

 

 

นำท่านเดินทางสู่ ซิตี้ พาเลซ (City Palace)หรือที่รู้จักกันในนาม “พระราชวังหลวง” ตั้งอยู่บริเวณถนน ฮาวา มาฮาลบาซ่าร์ (Hawa Mahal Bazar) สร้างขึ้นในสมัยมหาราชสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 เดิมพระราชวังนี้เป็นพระราชวังของ มหาราชใจสิงห์ แต่ปัจจุบันนี้พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ภายในพิพิธภัณฑ์มีหลายจุดที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย 4 จุดด้วยกัน ได้แก่ จุดที่หนึ่งคือในส่วนพระราชวัง จุดที่สองในส่วนของพิพิธภัณฑ์ (ที่จัดแสดงเกี่ยวกับฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ที่แสดงให้เห็นถึงความปราณีต การตัดเย็บได้อย่างสวยงาม) จุดที่สามในส่วนของจำพวกอาวุธ และชุดศึกสงคราม และในจุดที่สี่ จะแสดงในส่วนของศิลปะของภาพวาด ภาพถ่าย ราชรถ และพรมโบราณ ที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ และอีกหนึ่งไฮท์ไลท์คือหม้อน้ำขนาดใหญ่มหึมา จำนวน 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก

 

นำท่านเดินทางไปยัง วัดพระพิฆเนศ โมติดุงกิ หนึ่งในวัดพระพิฆเนศที่ใหฐ่ที่สุดในเมืองชัยปุระ พระพิฆเนศ ในศาสนาฮินดูถือว่าเป็นพระเจ้าแห่งความเป็นมงคล ภูมิปัญญาความรู้และความมั่งคั่ง เป็นที่เคารพบูชาที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวอินเดียและชาวต่างชาติ

 

                   จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม อัลเบิร์ตฮอลล์ (Albert Hall)หรือพิพิธภัณฑ์กลางของเมืองชัยปุระสร้างตามสถาปัตยกรรมของอังกฤษ ด้านในจัดแสดงวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยในราชสถานรวมถึงห้องสมุดและภาพวาดแบบย่อส่วน (Miniature Painting) ในสมัยของโมกุลให้ชม

 

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

พักที่   Park Crimson Park, Jaipur ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

            

 

Day3   เมืองชัยปุระ – ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ท – พระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ท – พระราชวังกลางน้ำ หรือ “Jal Mahal”

 

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำท่านเดินทางสู่ ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด (Amber Fort)ตั้งอยู่ที่ เมืองอาเมร์ ห่างจากเมือง ชัยปุระไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร สร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 โดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 (Raja Man  Singh 1) ทรงรับสั่งให้มีการสร้างป้อมปราการขึ้นในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการบูรณะมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่น สวยงามเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมีโอกาสได้มาเยือนอินเดียแล้วไม่ควรพลาด  เนื่องจากตั้งอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ อีกทั้งป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ดยังมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะทางฮินดู และศิลปะราชปุตอันซึ่งทำให้ที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งทุกท่าน ยังสามารถมองเห็นป้อมปราการได้จากระยะทางไกล ด้วยขนาดของกำแพงปราการขนาดใหญ่และมีความแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย และพิเศษสุดๆ ทุกท่านสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตา ได้อย่างชัดเจน เมื่อมองจากบนป้อมปราการ พิเศษ!! นำทุกท่านนั่งรถจิ๊บเพื่อขึ้นไปยังส่วนของพระราชวัง

 

Option เพิ่มเติม: กรณีที่ลูกค้าต้องการขี่ช้าง ขึ้นไปยังพระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ดสามารถแจ้งทางหัวหน้าทัวร์ได้ โดยเพิ่มเงินท่านละ ประมาณ 12 USD/เที่ยว

 

ชมความสวยงามของ พระราชวังแอมเบอร์ ฟอร์ดภายในแบ่งเป็นทั้งหมดได้ 4 ชั้น แต่ละชั้นจะคั่นด้วยทางเดิน ภายในเป็นหมู่พระที่นั่ง สร้างจากหินทรายสีแดงและหินอ่อน หมู่พระที่นั่งภายในป้อม ประกอบด้วยท้องพระโรง ท้องพระโรงส่วนพระองค์ พระตำหนักซึ่งเป็นห้องทรงประดับกระจกสำหรับมหาราชา ตำหนักอยู่บนชั้นสอง สวนสวยจัดเป็นรูปดาวแฉกแบบโมกุลคั่นระหว่างอาคาร และพระตำหนักที่ใช้การปรับอากาศภายในพระตำหนักให้เย็นลงด้วยการทำให้ลมเป่าผ่านรางน้ำตกที่มีอยู่โดยรอบ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ภายในตำหนักนี้มีอากาศเย็นอยู่เสมอ

 

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 

นำท่านชม พระราชวังกลางน้ำ หรือ “Jal Mahal”ตั้งอยู่กลาง ทะเลสาบมันสาคร (Man Sagar) ใกล้ๆกับเมืองชัยปุระ สร้างขึ้นโดย มหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่ 2 (Maharaja Sawai Jai Singh II) ด้วยสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุลที่สวยงามและประณีต ความโดดเด่นของพระราชวังแห่งนี้คือ ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ และมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ทำให้ที่นี่สวยงามแม้ตัวพระราชวังจะมีถึง 5 ชั้นด้วยกัน แต่ในขณะที่น้ำขึ้นสูง ทั้ง 4 ชั้นของพระราชวังจะจมอยู่ใต้น้ำ เหลือเพียงชั้นที่ 5 ที่เราจะสามารถมองเห็นได้ เป็นจุดท่องเที่ยวและถ่ายรูปที่สวยงามใกล้นครชัยปุระ

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักที่   Park Crimson Park, Jaipur ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

 

Day4   เมืองอัครา – ทัชมาฮาล – อัครา ฟอร์ท

 

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

นำทุกท่านเดินทางไปยัง เมืองอัครา (Agra) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) อดีตเมืองหลวงของประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกว่า “ฮินดูสถาน” อัครา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดียในรัฐอุตตรประเทศมีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ อันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย และที่สำคัญเมืองอัคราถือว่าเป็นสถานที่ตั้ง “อนุสรณ์สถานแห่งความรัก” หรือ “ทัชมาฮาล”

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ ทัชมาฮาล (Taj Mahal)หรืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งก่อเกิดพลังแห่งความรัก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน ทัชมาฮาล ถือเป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนต่างยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่งดงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน ทัชมาฮาล ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลก 1 ใน สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับความรักที่เป็นอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัช สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 จากนั้นหัวหน้าทัวร์ นำทุกท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศ และไว้อาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป พร้อมกับนำทุกท่านถ่ายรูปภาพกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง พาทุกท่านเยี่ยมชมภายในอาคารที่มีการสร้างมาจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ มีการประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหินถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดมที่มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัช มาฮาล และพระเจ้าชาห์จาฮัน ที่ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์

นำท่านเดินทางสู่ อัครา ฟอร์ท (Agra Fort)อีกหนึ่งสถานที่แหล่งมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือน อัครา ฟอร์ท พระราชวังที่ถือว่ายิ่งใหญ่ เพราะใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคด้วยกัน ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล เป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สถาปัตยกรรมตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง โดยกษัตริย์อัคบาร์ และที่แห่งนี้ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์

 

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

พักที่    Hotel Royale Regent, Agra ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

            

 

Day5   เมืองเดลี – กุตับมีนาร์ – ประตูเมืองอินเดีย – ตลาดพื้นเมืองจันปาท – สนามบินเดลี

 

เช้า      บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

 

 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเดลี (Delhi)(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านการเมืองการปกครองประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งออกเป็น 2 เขต ได้แก่ เขตเดลีเก่า และเขตนิวเดลีใหม่ หรือนิวเดลี ซึ่งที่นี่ประกอบไปด้วยโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ สวน ร้านค้า การแสดง อาหาร หมู่บ้านเก่าแก่ หมู่โบราณสถาน

 

เที่ยง   บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ กุตับมีนาร์ (Qutub Minar)หอคอยสุเหร่าที่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงเดลี มีความสูงประมาณ 72.5 เมตร หรือ 237.8 ฟุต เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1993 สร้างด้วยหินทรายแดง (เช่นเดียวกับสุสานหุมายูน) และหินอ่อนเป็นทรงเสาสูงปลายฐานกว้าง 14 เมตรเศษ ส่วนชั้นบนสุดยอดกว้าง 2.7 เมตร มีความสูง 72.5 เมตร (ประมาณตึกสูง 20 ชั้น) ภายในมีบันไดวนไปถึงยอดรวม 379 ขั้น

นำท่านเดินทางสู่ ประตูเมืองอินเดีย (India Gate)ประตูเมืองแห่งนี้สูง 43.3 เมตร ซุ้มโค้งของประตูกว้าง 9.1 เมตร สูง 22.8 เมตร สร้างโดยใช้หินทรายแดงแท่งทึบ เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในงานวันสำคัญต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสาวรีย์ของทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ประตูเมืองแห่งนี้จะเห็นลายสลักชื่อของทหารที่ตายในสนามรบ โดยชื่อที่สลักไว้เป็นชื่อของทหารและข้าราชการชาวอินเดียและอังกฤษ จำนวน 13,516 คน ที่พลีชีพในสงครามชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ และสงครามอัฟฆัน ครั้งที่ 3 ด้านบนยอดของประตูสร้างเพื่ออุทิศให้แก่ทหารที่หายสาบสูญไปโดยไร้ร่องรอย

พาท่านช้อปปิ้ง ตลาดพื้นเมืองจันปาททุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับสินค้าพื้นเมืองมากมาย อาทิ ผ้าพันคอ เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องเงิน ของตกแต่งบ้านสไตล์อินเดีย ของแฮนด์เมด ราคาถูก รับรองว่าทุกท่านจะไม่ผิดหวังเพราะที่ตลาดแห่งนี้เปรียบเสมือนพาหุรัดเมืองไทย

ค่ำ       บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร เมนูพิเศษ!! อาหารไทย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเดลี ประเทศอินเดีย

21.10   นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG740

 

Day6   สนามบินสุวรรณภูมิ – ประเทศไทย

 

02.45   เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ

สำคัญโปรดอ่าน

1.  กรุณาทำการจองล่วงหน้าก่อนเดินทางอย่างน้อย 45 วัน พร้อมชำระเงินมัดจำท่านละ 11,000 บาท/ท่าน และชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ก่อนการเดินทาง กรณีวันเดินทางน้อยกว่า 30 วัน ต้องชำระค่าทัวร์เต็มจำนวน 100% เท่านั้น

2.   อัตราค่าบริการนี้ จำเป็นต้องมีผู้เดินทาง จำนวน 15 ท่าน ขึ้นไป ในแต่ละคณะ กรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึงตามจำนวนที่กำหนด ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ (ปรับราคาเพิ่มขึ้น เพื่อให้คณะได้ออกเดินทาง ตามความต้องการ)

3. ท่านที่ต้องออกบัตรโดยสารภายในประเทศ (ตั๋วเครื่องบิน, รถทัวร์, รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกบัตรโดยสาร เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และการแนะนำจากเจ้าหน้าที่เป็นเพียงการแนะนำเท่านั้น

4.  นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโปรแกรมข้างต้นควรทำการจอง และ ส่งเอกสารเพื่อขอวีซ่าหมู่คณะก่อนเดินทางอย่างน้อย 45 วัน วันหยุดนักขัตฤกษ์ 60 วัน หากระยะเวลาน้อยกว่าที่ระบุไว้ข้างต้น ขอสงวนสิทธิ์ในการขอวีซ่าประเภทอื่นซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน

5.  ระหว่างท่องเที่ยวหากนักท่องเที่ยวได้รับการตรวจยืนยันว่ามีเชื้อโควิด ทางโรงแรมอาจมีค่าทำความสะอาดห้องพักเพิ่มเติม ถ้ามี (ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์)

6. ในกรณีที่ภาครัฐทั้งไทย และประเทศปลายทางมีข้อกำหนดในการกักตัว หรือ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกประเภท ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยตัวท่านเอง ถ้ามี (ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์)

Visitors: 1,207,319