น่าน สะปัน บ่อเกลือ ดอยภูคา 3วัน 2คืน

 

 

                          

      วันแรกสนามบินดอนเมือง – สนามบินน่านนคร – เฮืองฮังต่อ – วัดศรีพันต้น – วัดมิ่งเมือง – วัดพระธาตุช้างค้ำ – วัดภูมินทร์ – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน – โบราณสถานวัดน้อย – ซุ้มลีลาวดี – วัดพระธาตุแช่แห้ง – วัดพระธาตุเขาน้อย – ถนนคนเดินน่าน


   06.00 พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง ไกด์นําเที่ยวคอยให้การต้อนรับและอํานวยควาสะดวกในการเช็คอิน

08.30 นําท่านเดินทางสู่ สนามบินน่านนคร โดยสายการบิน นกแอร์ (DD) เที่ยวบินที่ DD170 

09.35 เดินทางถึง สนามบินน่านนคร จังหวัดน่าน หลังจากนั้นนําท่านเดินทางท่องเที่ยวตามรายการ 

                นําท่านเช็คอินจิบชากาแฟที่ เฮือนฮังต่อ กาแฟน่าน ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่รวมเอากาแฟจากแหล่งปลูกต่างๆของ จังหวัดน่านมาไว้ที่นี่ เป็นร้านที่มีขนาดใหญ่บรรยากาศดี มีมุมให ้ถ่ายรูป,มุมให ้นังชิลๆเยอะ ให ้ท่านสัมผัสกับ บรรยากาศสบายๆ ร่มรื่น

               นำท่านเดินทางสู่ วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ที่ถนนสุริยพงศ์ เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน เดิมเป็นวัดร้าง มีเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ ต่อมาเจ้าครองนครน่านสถาปนาวัดใหม่ตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่งเมือง ต่อมาปี 2527 ได้มีการรื้อถอนและสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็น แบบล้านนาร่วมสมัยแบบในปัจจุบัน โดยตกแต่งลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ มีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตร งดงามมาก ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่าน ฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน และในบริเวณวัดยังเป็นที่ ประดิษฐานเสาหลักเมือง ซึ่งอยู่ในศาลาจตุรมุข ด้านหน้าพระอุโบสถ เสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลาย ลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

          

 

                 นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร สร้างขึ้นโดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน อายุมากกว่า 600 ปี ประกอบด้วยวิหารขนาดใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย ภายในวัดยังประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ทรงลังกา สูงตระหง่านมีรูปปั้นรูปช้างครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ลักษณะเหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก เป็นศิลปะที่น่านรับผ่านอาณาจักรสุโขทัย มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์นำท่านเดินทางสู่ วัดภูมินทร์ เดิมชื่อ "วัดพรหมมินทร์" เป็นวัดที่แปลกกว่าวัดอื่น ๆ คือ โบสถ์และวิหารสร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันประตูไม้ทั้งสี่ทิศ แกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือล้านนาสวยงามมาก นอกจากนี้ฝาผนังยังแสดงถึงชีวิตและ วัฒนธรรมของยุคสมัยที่ผ่านมาตามพงศาวดารของเมืองน่าน ความงามของ พระอุโบสถจตุรมุข เป็นพระอุโบสถทรงจตุรมุข พระประธานจตุรพักตร์ นาคสะดุ้งขนาดใหญ่แห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวนาค พระอุโบสถจตุรมุขนี้กรมศิลปกรได้สันนิษฐานว่า เป็นพระอุโบสถจตุรมุขหลังแรกของ ประเทศไทยพระอุโบสถ ตรงใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ออก ด้านประตูทั้งสี่ทิศ หันเบื้องพระปฤษฏางค์ ชนกันประทับ นั่งบนฐานชุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่ไปชมความงามของ พระอุโบสถนี้ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศใด จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้าน  ภายในจะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังชื่อดัง "ปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ" ผลงานของหนานบัวผัน จิตรกรท้องถิ่นเชื้อสายไทลื้อ เป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกระซิบอยู่ และเป็นภาพที่รู้จักกันในชื่อ "กระซิบรักบันลือโลก" และเป็นที่นิยมกันในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องมาถ่ายรูปกับภาพจิตรกรรมฝาผนังนี้

                   

             นำท่านชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองน่านใกล้กับวัดภูมินทร์ เป็นอาคารแบบยุโรปซึ่งเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 5 ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมท้องถิ่นเมืองน่าน เดิมเป็น หอคำ ซึ่งเป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน เคยใช้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัดแห่งแรกของจังหวัดน่าน ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างจัดแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่าง ๆ ในจังหวัดน่าน รวมทั้งเทศกาลงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัด เช่น การสืบชะตา การแข่งเรือ ส่วนชั้นบนจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยต่าง ๆ ที่พบในจังหวัดน่าน ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคเจ้าผู้ครองนครน่าน สิ่งของในพิพิธภัณฑ์ชิ้นที่สำคัญ ได้แก่ งาช้างดำ วัตถุมงคลคู่บ้านคู่เมืองน่าน สมบัติของเจ้าผู้ครองนครเมืองน่านรักษาสืบต่อกันมาหลายชั่วคน เป็นงาช้างข้างซ้าย ยาว 94 เซนติเมตร วัดโดยรอบส่วนที่ใหญ่สุดได้ 47 เซนติเมตร มีน้ำหนัก 18 กิโลกรัม ได้มาในสมัยพระยาการเมืองเจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 5

                นำท่านชม โบราณสถานวัดน้อย หรือ วัดน้อย เป็นวัดขนาดเล็กที่สุดในจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ใต้ต้นโพธิ์ มีตำนานเล่าขานกันมาว่า พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 63 ได้กราบบังคมทูลถึงจำนวนวัดในเมืองน่านต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ปรากฏว่านับจำนวนเกินไป 1 วัด ด้วยความซื่อสัตย์จึงได้สร้างวัดน้อยแห่งนี้ โดยให้ช่างพื้นเมืองน่านก่อสร้างวัดตรงโคนต้นโพธิ์หน้าหอคำหรือวังที่พระองค์ประทับเพื่อให้ครบตามจำนวน คนที่มาสักการะมักจะขอเรื่องความซื่อสัตย์

               จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ ซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ตั้งอยู่ภายในคุ้มของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน (หอคำ) ที่มีต้นลีลาวดีขึ้นเป็นแถวเรียงราย แผ่ขยายกิ่งก้าน โค้งเข้าหากันเป็นอุโมงค์           

         เที่ยงบริการอาหารกลางวัน

               นำท่านเดินทางสู่ พระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง พระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ (ปีนักษัตรกระต่าย) เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย (กระดูกข้อมือข้างซ้าย) มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง     

              

                 นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุเขาน้อย องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน สร้างในสมัยเจ้าปู่แข็ง เมื่อปี พ.ศ. 2030 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดชฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2449-2454 โดยช่างชาวพม่า จากวัดพระธาตุเขาน้อย สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่าน ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท

        

           เย็นอิสระอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

               จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ถนนคนเดินเมืองน่าน หรือ ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่าน เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์  ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. ตั้งอยู่บนบนถนนผากอง ระหว่างลานข่วงเมือง หน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ไปถึงสามแยกถนนจัทรประโชติ ให้ท่านเลือกซื้ออาหารมากมาย มีทั้งอาหารพื้นเมือง ผักผลไม้ หรือเสื้อผ้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึกแฮนด์เมดต่างๆจากจังหวัดน่านของได้จากที่นี่ ในราคาย่อมเยา อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย กรณีไม่มีถนนคนเดินของเปลี่ยนเปลงเป็นถนนคนเมืองแทน

                ที่พักน้ำทองน่าน หรือเทียบเท่า

           วันที่สอง เดอะวิว@กิ่วม่วง – ถนนหมายเลข 3 – บอเกลือวินเธาว์ – บ้านสะปัน – จุดชมวิวดอยภูคา 1715 – โกโก้ วอลเล่ย์ คาเฟ่


                   เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

                   นำท่านเดินทางสู่ เดอะวิว@กิ่วม่วง เป็นคาเฟ่บนเชิงเขา ให้ท่านได้สัมผัสกับวิวของธรรมชาติของเมืองน่านแบบสุดลูกหูลูกตา พร้อมนั่งจิบเครื่องดื่มชิล ๆ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาสัย

         

                 นำท่านเดินทางสู่ อำเภอปัว โดยใช้เส้นทางถนนหมายเลข 1256 ที่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เรียกกันว่า “ถนนลอยฟ้า” ซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสงบ พร้อมสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มอิ่มตลอดทั้งเส้นทาง อีกทั้งยังมีภูเขาและต้นไม้ปกคลุมทั้งพื้นที่ ซึ่งเห็นได้จากภาพมุมสูง

                 นำท่านถ่ายรูป ถนนหมายเลข 3 หรือถนนลอยฟ้า ปัว-บ่อเกลือ-สันติสุข เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงาม และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ระหว่างการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดน่าน

             

                   เที่ยงบริการอาหารกลางวัน 

                   นำท่านเดินทางถึง บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ เกลือภูเขาที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก เดิมมีชื่อเรียกว่า “เมืองบ่อ” หมายถึง เมืองที่มีบ่อเกลือสินเธาว์อยู่ในพื้นที่ เป็นบ่อเกลือที่มีอายุกว่า 800 ปี ท่านจะได้สัมผัสวิถีชาวบ้าน ที่ประกอบอาชีพผลิตเกลือภูเขาแบบโบราณ ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกลือได้ เช่น ดอกเกลือ เกลือแกง เกลือสปา ยาสีฟันเกลือ เป็นต้น (หมายเหตุ : งดสาธิตวิธีทำเกลือในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนทำให้ไม่สามารถตากเกลือได้) 

                   นำท่านสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่ บ้านสะปัน ตั้งอยู่ในอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน  ห่างจากบ่อเกลือภูเขาประมาณ  9 กิโลเมตร  เป็นชุมชนเล็กๆ แสนสงบ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำธารไหลผ่าน และในช่วงหน้าฝนฤดูทำนา ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของนาข้าวเขียวขจีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าหากแวะมาเที่ยวบ่อเกลือภูเขาขับรถเลยไปอีกเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงหมู่บ้านสะปัน เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ปล่อยชีวิตให้เดินไปอย่างช้า ๆ

                   จากนั้นนำท่านชม จุดชมวิวดอยภูคา 1715 จุดแวะพักชมวิวที่สูงห่างจากระดับน้ำทะเล 1715 เมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ โดยมีระยะทางห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคา 8 กิโลเมตร เส้นทาง ปัว – บ่อเกลือ มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อน 

      

                  นำท่านเช็คอิน โกโก้ วอลเล่ คาเฟ่ เป็นคาเฟ่ที่มีความพิเศษตรงนี้ ทางร้านปลูกโกโก้เอง มีเมนูให้ลองทานหลากหลายเมนูโกโก้ สายโกโก้ห้ามพลาด นอกจากนี้คาเฟ่ยังมีจุดถ่ายรูปมากมายให้ได้เซลฟี่เช็คอินชิคๆอีกด้วย และถือเป็นคาเฟ่ชื่อดังของปัวเลยทีเดียว

                  เย็นบริการอาหารค่ำ 

                  ที่พักฮัก ปัว โฮเทล หรือเทียบเท่า

          วันที่สามวัดภูเก็ต – กาแฟไทลื้อ – ลำดวนผ้าทอ – ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ – วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) – คาเฟ่บ้านนาก๋างโต้ง – สนามบินน่านนคร – สนามบินดอนเมือง – กรุงเทพฯ


                   เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

                  นำท่านเดินทางสู่ วัดภูเก็ต หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู หรือ ดอย วัดภูเก็ต เป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และวิวที่สวยงามมีลานชมวิวที่สามารถมองได้กว้างถึง 180 องศา สามารถเห็นวิวทุ่งนาแล้วมีเทือกเขาอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ด้านล่างมีแม่น้ำไหลผ่าน ทางวัดได้จัดให้เป็นเขตอภัยทาน สามารถให้อาหารจากลานข้างบน ผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้

                  จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านกาแฟชื่อดังของจังหวัดน่าน อยู่บริเวณใกล้ ลำดวนผ้าทอ ร้านขายผ้าพื้นบ้านที่มีของที่ระลึกและผ้าทอไทลื้อ ผ้าทอน้ำไหล ลายโบราณต่างๆ สำหรับโซนร้านกาแฟสไตล์ของชุมชนชาวไทลื้อผสมล้านนา ภายในร้านมีเรือนไม้เก่าที่จัดโชว์เครื่องไม้เครื่องมือเก่าแก่ของชาวไทลื้อมาประดับตกแต่งสวยงาม จะมีมุมนั่งจิบกาแฟเป็นกระท่อมมุงด้วยหลังคาจาก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทุ่งนา สามารถเลือกนั่งชิลๆ บรรยากาศอันเงียบสงบได้ตามอัธยาศัย

                  นำท่านเดินทางสู่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เป็นโฮมสเตย์ ร้านอาหารที่โด่งดังในอำเภอปัว โดยเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ก็คือ “พิซ่าเห็ด” นอกจากจะมีอาหารและที่พักแล้ว ยังมีจุดในท่านได้นั้งชมวิวสุดลูกหูลูกตา ดึ่มด่ำกับบรรยากาศสโลไลฟ์

          

                       นําท่านเข้าสู่ วัดศรีมงคล (วัดก๋ง) เป็นวัดเก่าแก่ที่ได ้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395  พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงป่ ูก๋ง ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม โดย เลียนแบบการวาดของหนานบัวผัน จิตรกรชาวน่านเชื่อสายไทลื่อ ซึ่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และวัด หนองบัวของจังหวัดน่านโดยบริเวณลานชมวิว ทางวัดได ้จัดทําเป็นซุ้มและจุดชมวิวให ้ถ่ายภาพหลายจุด รวมถึงร้าน กาแฟบรรยากาศไทยๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ มีทัศนียภาพที่งดงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจี และทิวเขาของดอยภูคา เรียงรายสลับซับซ้อน 

    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน

                    นำท่านเดินทางสู่ บ้านนาก๋างโต้ง จุดเช็กอินสวย ๆ แห่งใหม่ของเมืองน่าน มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารและที่พักไว้รองรับ โดยมีความโดดเด่นอยู่ตรงที่การออกแบบสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ซึ่งเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติที่หาได้จากท้องถิ่นมาเสริมเติมแต่งให้มีความทันสมัยสวยงาม กลิ่นอายแบบมินิมอลผสมญี่ปุ่นหน่อย ๆ ดูอบอุ่น น่าพักผ่อน รายล้อมไปด้วยท้องไร่ท้องนาสีเขียว อากาศเย็นสบาย มีจุดให้นั่งเล่นพักผ่อนอยู่โดยรอบ

                  นำท่านเดินทางซื้อของฝาก หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินน่าน เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

     1 นำท่านเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน นกแอร์ (DD) เที่ยวบินที่ DD177

    7.40 -18.50 เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ ... พร้อมความประทับใจ

       

 

อัตราค่าบริการ

กำหนดการเดินทาง

ราคาทัวร์ผู้ใหญ่/เด็ก

ห้อง 2-3 ท่าน

พักเดี่ยวเพิ่ม

01 – 03 มีนาคม 2565

8,999

2,000

11 – 13 มีนาคม 2565

9,999

2,000

25 – 27 มีนาคม 2565

9,999

2,000

08 – 10 เมษายน 2565

9,999

2,000

22 – 24 เมษายน 2565

9,999

2,000

27 – 29 เมษายน 2565

9,999

2,000

06 – 08 พฤษภาคม 2565

9,999

2,000

20 – 22 พฤษภาคม 2565

9,999

2,000

27 – 29 พฤษภาคม 2565

9,999

2,000

10 – 12 มิถุนายน 2565

9,999

2,000

17 – 19 มิถุนายน 2565

9,999

2,000

24 – 26 มิถุนายน 2565

9,999

2,000


*ราคาทัวร์ข้างต้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะค่าเงินบาทและค่าน้ำมันที่ไม่คงที่ อาจมีการปรับราคาค่าโดยสารของสายการบินเพิ่มเติม

จากราคาที่กำหนด และทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือสายการบิน 

โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก*

        * กรณีพัก 3 ท่าน/ห้อง ทางโรงแรมจะทำการเสริมเตียงได้เท่านั้น *

** ราคาทัวร์นี้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500 บาท/ท่าน **

***ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยวท่านละ 300 บาท /ทริป/ต่อท่าน***

ไม่ใช้ตั๋วเครื่องบินหักจากราคาทัวร์ข้างต้น 2,000 บาท

การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวนขั้นต่ำ 6 ท่าน ต่อ 1 คันรถตู้ กรณีผู้โดยสารไม่ครบตามจำนวนดังกล่าว 

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนการเดินทาง หรือเปลี่ยนแปลงราคา

เนื่องจากพีเรียดเดินทางเป็นช่วงเทศกาล อาจมีสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการปิด หรือไม่สามารถเข้าชมได้

ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุม ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์งด หรือเปลี่ยนแปลงรายการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกทัวร์เป็นหลัก

 

           อัตราค่าบริการนี้รวม

            ☑ น้ำหนักสัมภาระถือขึ้นเครื่อง Carry on 7 กิโลกรัม

            ☑ ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับพร้อมคณะ ที่นั่งเป็นไปตามการจัดสรรของสายการ

            ☑ ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ 3% กรณีออกใบเสร็จหัก ณ ที่จ่ายในนามบริษัทเท่านั้น

            ☑ ค่ารถบัสปรับอากาศตลอดเส้นทาง ตามรายการที่ระบุ (ยังไม่รวมทิปคนขับรถ)

            ☑ ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการระบุ

            ☑ ค่าอาหารตามที่รายการระบุ โดยทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

            ☑ ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตราฐานตามที่รายการระบุ (พักห้องละ 2-3 ท่าน ต่อห้อง กรณีที่พัก 3 ท่าน เป็นการนอนเตียงเสริม 1 ท่าน) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการปรับเปลี่ยนโรงแรมที่พักไปเป็นเมืองใกล้เคียงแทนโดยอ้างอิงมาตรฐานคุณภาพและความเหมาะสมเดิมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

            ☑ ค่าจ้างไกด์นำเที่ยวคอยบริการ และ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 

            ☑ ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท  (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) กรณีต้องการซื้อประกันเพิ่มเพื่อคุ้มครองสุขภาพกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นกรณีพิเศษ

 

             อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

            ☒ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าซักรีด มินิบาร์ในห้อง รวมถึงค่าอาหาร เครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มนอกเหนือรายการ และ ค่าพาหนะต่างๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

            ☒ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น

            ☒ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการออกใบเสร็จรับเงินในนามบริษัท

            ☒ ค่าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องกรณีที่เดินทางด้วยสายการบินอื่น

            ☒ ค่าสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง 15 กิโลกรัม/เที่ยว เที่ยวละ 450 บาท

            ☒  ค่าทิปคนขับรถ และไกด์นำเที่ยว ท่านละ 300 บาท

          เงื่อนไขการชำระค่าบริการ

         1. นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินมัดจำค่าทัวร์ เป็นจำนวน 5,000 บาทต่อท่าน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน เพื่อสำรองที่นั่ง

         2. นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องชำระเงินค่าบริการส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 21 วัน กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระเงินไม่ครบภายในกำหนด รวมถึงกรณีเช็คของท่านถูกปฏิเสธการจ่ายเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ถือว่านักท่องเที่ยวสละสิทธิการเดินทางในทัวร์นั้นๆ

         3. การติดต่อใดๆ กับทางบริษัทเช่น แฟกซ์ อีเมลล์ หรือจดหมายฯ ต้องทำในวันเวลาทำการของทางบริษัท ดังนี้ วันจันทร์ ถึงศุกร์ เวลา 9.00 น. – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 9.00 น. – 14.00 น. นอกจากวันเวลาดังกล่าวและวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศในปีนั้นๆถือว่าเป็นวันหยุดทำการของทางบริษัท

      เงื่อนไขการยกเลิกการเดินทาง

         1. กรณีที่นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอยกเลิกการเดินทาง หรือเลื่อนการเดินทาง นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่(ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการยกเลิกที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแจ้งยกเลิกการจองกับทางบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร ทางบริษัทไม่รับยกเลิกการจองผ่านทางโทรศัพท์ไม่ว่ากรณีใดๆ

         2. กรณีนักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ต้องการขอรับเงินค่าบริการคืน นักท่องเที่ยวหรือเอเจนซี่ (ผู้มีชื่อในเอกสารการจอง) จะต้องแฟกซ์ อีเมลล์ หรือเดินทางมาเซ็นเอกสารการขอรับเงินคืนที่บริษัทอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำเรื่องขอรับเงินค่าบริการคืน โดยแนบหนังสือมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบการมอบอำนาจ หลักฐานการชำระเงินค่าบริการต่างๆ และหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้นำเงินเข้าให้ครบถ้วน โดยมีเงื่อนไขการคืนเงินค่าบริการดังนี้

         3. ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 30 วัน ขึ้นไป คืนเงินค่าทัวร์เต็มจำนวน หรือหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง ** ในกรณีที่วันเดินทางตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ต้องยกเลิกการเดินทางไม่น้อยกว่า 40 วัน **

         4. ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 15 - 29 วัน คืนเงินค่าทัวร์ 50% และหักค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริง อาทิ ค่ายานพาหนะ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ค่าบริการ หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ 

         5.ยกเลิกก่อนวันเดินทาง 0 - 14 วัน ไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ชำระแล้วทั้งหมด

        เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ

         1. ทัวร์นี้สำหรับผู้มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านั้น

         2. ทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบเหมา หากท่านไม่ได้ร่วมเดินทางหรือใช้บริการตามที่ระบุไว้ในรายการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด หรือถูกปฏิเสธการเข้า-ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆ ทางบริษัทจะไม่คืนเงินค่าบริการไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่าน

         3. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทาง ทั้งนี้ บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ

         4. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบใดๆ ต่อความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่มิได้เกิดจากความผิดของทางบริษัท เช่น ภัยธรรมชาติ การจลาจล การนัดหยุดงาน การปฏิวัติ  อุบัติเหตุ ความเจ็บป่วย ความสูญหายหรือเสียหายของสัมภาระ ความล่าช้า เปลี่ยนแปลง หรือการบริการของสายการบิน เหตุสุดวิสัยอื่น เป็นต้น

        5. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท  เว้นแต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น 

        6. เงื่อนไขการเดินทาง ระเบียบ ข้อจำกัดการเดินทาง ในแต่ละจังหวัดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของภาครัฐ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทางต้องมีความพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของจังหวัดนั้นๆ


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Visitors: 1,207,386